เผยแพร่องค์ความรู้เกียวแก่เลขยันต์อักขระเป็นวิทยาทาน และให้เช่าบูชาเครื่องราง

ครูน้อย นารายณ์ พลิกแผ่นดิน. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สู่ขวัญเด็กน้อย



สู่ขวัญเด็กน้อย
ป็นการรับขวัญเด็กเกิดใหม่ เพื่อให้เป็นคนดี มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง มี คนนับหน้าถือตาเมื่อเติบใหญ่ ได้เป็นเจ้าคนนายคน มั่งมีเป็นมหาเศรษฐี มีบริวารคับคั่ง
เด็กๆ มักจะเจ็บไข้ได้ป่วยบ่อยๆ ถ้าพ่อแม่เอาใจใส่ในการอยู่กิน หลับนอน โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่เบียดเบียน เด็กก็เหมือนผู้ใหญ่ที่ต้องการให้คนอื่นเอาอกเอาใจ เวลาลูกเจ็บป่วยพ่อแม่ก็จะทำการสู่ขวัญให้ และให้ศีลให้พรแก่ลูก ลูกก็มีความดีใจ มีกำลังใจ มีความสุข ดังคำ สู่ขวัญว่า
รี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อดิถีกุมารมาเกิด แสนประเสริฐมาคูณเฮือน นับสิบเดือนทศ มาส เจ้าหาญอาจอยู่ในครรภ์ ดั่งดวงจันทร์มาเกิด ลูกประเสริฐมาดอมเพลา เบิ่งเลาคิงอยู่ส้อยล้อย ส้อยล้อย เจ้าอ่อนน้อยมาแต่แถน มาแต่แมนเมืองฟ้า พระหน่อหล้าจอมไตร ภูวนัยตกแต่ง มาแต่ แห่งดุสิต จุติมาถือดาวฤกษ์ ลูกมาถึกยามราชา จุติมามนุษย์โลก นับเป้นโชคของบิดาและมารดา มาห่วมชายคาปู่ย่า มาเป็นค่าไพฑูรย์ มาอยู่คุณค่าเลิศ เจ้ามาเกิดคนออนซอน เจ้างามงอนองอาจ ดูประหลาดดั่งทองคำ ผมดำดีผุดผ่อง คิ้วกะก่องคันธนู ไผมาดูว่างามเลิศ ว่าเจ้าเกิดจากดาวใส มาแต่ไกลวิมานเมฆ เจ้าเป็นเอกในโลกา
ดั่งสีดาพระรามลักษณ์ บุญเจ้าชักนำพา จั่งลงมาเอากำเนิด จั่งมาเกิดในเมืองคน สัปทน กันกั้ง ให้เจ้านั่งเป็นพระยา ให้เจ้าเป็นราชาครองราช ให้เจ้าได้ปราสาทสามหลัง อยู่ในวังเจ็ดชั้น มี ผู้ปั้นแต่งนำมา คนไหลมาโฮมห่อ เป็นต้นหน่อพระบรม มีคนชมพอหมื่น ให้ล้นหลื่นคนทั้งหลาย ทั้ง หญิงชายนบนอบ อันประกอบศฤงคาร บริวารพอโกฏิ อย่ามีโทษมาพาล บริวารขวาซ้าย ยามเจ้า ย้ายไปมา มีรถราฮองนั่ง มีคนหลั่งไหลโฮม มีคนชมแหนแห่ ให้พอแม่ยินดี มีฤทธีดังพระอุปราช ฤทธีอาจดั่งนารายณ์ ไปทางใด๋คนอ่อนน้อม ให้มีพร้อมดั่งพระอิศวร บรบวรคับคั่ง ให้ได้นั่งวิมาน ทอง มีแนวฮองเป็นแท่น ปัญญาแหล่นดั่งศรีธนญชัย ปัญญาไวดั่งเสียวสวาสดิ์ ให้ฉลาดดั่ง เวสสันดร พระภูธรคนมากราบ ให้เขาฮาบปานหน้ากลองชัย เวลาไปเสด็จด่วน ให้เจ้าหม่วนใน พระทัย
คึดอันใด๋ให้เจ้าได้สมดั่งใจหมาย มีทรัพย์สินเหลือหลายล้นหลาก อย่าให้อึดให้อยาก เงินทอง ไหลเนืองนองแน่นอั่ง คำไหลหลั่งดุจนะที มีนารีมานั่งเฝ้า ยามเจ้าเว้าคนเกรงขาม มีกาย งามดั่งเทพเจ้า มีคนเฝ้าล้อมแห่แหนหาม มีคนตามพอโกฏิ์ อย่ามีโทษอัญหาญ อย่ามีพาลอันกล้า มีข้อยข้าพอกือ มีคนถือของส่ง ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้ไปเนาค้างสวรรค์ทองปราสาท ขวัญเจ้าอย่าได้ประมาทเล่นนำเค้าเก่าหลัง
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้ไปอยู่ยั้งนำแม่เก่าเจ้าเด้อ ขวัญอย่าได้ไปนอนเผลอนำ พ่อเก่า ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้ามาฮีฮัก-ฮีฮัก จ่งมาพักกินนมหวาน แม่เจ้าเอาท้องมานตั้งเก้า แม่เจ้าเฝ้าเกือบพอปี แม่เจ้ามีน้ำนมให้ดื่ม แม่เจ้าตื่มแพรลาย แม่เจ้ายายผ้าอ้อม แม่เจ้าป้อมแพร ไหม แม่เจ้าหาอู่ให้เจ้าอยู่นอนเว็น ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปวังน้ำกินรีลงอาบ ขวัญเจ้าไปเที่ยว เล่นเห็นกล้วยหน่วยใส ขวัญเจ้าไปทางพุ้นหิมะวันป่าใหญ่ มีผลาหมากไม้สุกพร้อมสู่แนว แงวหวาน จ้อยบักไฟมี้หม่วง ให้เจ้าละอย่าหว่งเล่น มาถ่อนแม่สินอน
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้ด่วนไปไกล ขวัยเจ้าอย่าได้ไปบ่ต่าว มากินกล้วยหน่วย ยาว มากินปิ้งปลาขาวแม่สิป้อน แดดสิฮ้อนมาอยู่เฮือนเฮา ว่ามาเยอขวัญเอย มาอยู่อู่สายไหม อย่า ไปไกลแม่สิกล่อม มากินอ่อมปลามัน มากินจันน้ำแอ่ง แม่ตกแต่งเต็มพา แม่หามาไว้ลอมหล่อ-ลอม หล่อ มาอยู่กับพ่อเจ้าเด้อ อย่าไปเผลอมัวแหล่น ซูนไม้แก่นขาเจ้าสิแพลง ซูนไม้แข็งขาเจ้าสิโค่น
ว่ามาเยอขวัญเอย พ่อเจ้าบ่นนำหา พ่อไปนาสิเอาปลามาป้อน แดดฮ้อน ๆ พ่อสิพาเซา ว่ามาเยอขวัญเอย พ่อแห่งจ่มนำหลาย ผ้าแพรลายผืนใหม่ ผ้าห่มใหญ่พ่อเอามาห่มกาย ยามหนาว มาพ่อกอด ฮ้องจอก ๆ นกแจนแวน เอาสองแขนโอบกอด ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางก้ำ แดนไกลประเทศต่าง ขวัญเจ้าย่างอ่อมอ๋อ อย่างอ่อมอ้อยขวัญน้อยให้ต่าวมา
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าไปหลงดงใหญ่ เห็นนกไส่สับโกน อย่าไปโตนตามตาด ย่านเจ้าพลาดขาแขน อย่าไปแหงนจอบส่อง อย่าไปก่องสาขา ไม้ดีดตาเจ็บปวด ใหญ่พอบวช พ่อสิให้บวช ให้ท่องสวดคำภีร์ เฮียนบาลีค่ำเช้า ครองพระเจ้าศีลทาน อย่าอยู่นานให้เจ้าต่าว ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางก้ำ สาวัตถีเมืองใหญ่ ขวัญเจ้าไปอยู่ก้ำในถ้ำเถื่อนดง ขวัญเจ้า หลงไปพุ้นภูซูนไซ่ง่อน ขวัญเจ้าไปอยู่ซ้อนชาวแม้วกะเหรี่ยงดอย ขวัญเจ้าไปคอยถ่าสาวกุลาพาย หย่าม ขวัญเจ้าไปย่านน้ำทะเลกว้างอ่าวไทย เจ้าอย่าได้หลงอยู่ทะเลวน
ว่ามาเยอขวัญเอย มาอยู่ห่มเฮือนเฮา มาอยู่เพลาพ่อแม่ พวกเฒ่าแก่ปู่ย่าตายาย คนมา หลายเหลือหลาก มีของมากกุมาร มีของหวานตกแต่ง ของทุกแห่งเอามา มีผลาหมากไม้ เอามาใส่ พาพาน เป็นของหวานหมากม่วง เจ้าอย่าห่วงของเข้า ให้มากินของเฮาแม่ตกแต่ง แก้มแป่งแส่ง อย่าได้กลัว พ่อบ่ตั๋วคอยถ่า ทั้งแม่ป้าและพ่อลุง ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้หลงทางไกล ขวัญเจ้าอย่าได้ไปทางอื่น ขวัญเจ้าอย่าได้ตื่นเสียงโฮ เสียงคนโสคึดฮอดเจ้า นั่งเค้าเม้าปู่เฮามา พอปานตาฮักห่อ ลูกของพ่อให้ฟ้าวมา
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญแข่งให้เจ้าอย่างลีลา-ลีลา ขวัญขาให้เจ้าอย่างลีล้าย-ลีล้าย ให้ เจ้าย้ายเข้ามากินนม ให้แม่พ่อนอนชมหอมแก้มฟอด-ฟอด ให้พ่อแม่ได้กอดเย็นเช้าเอาขวัญ ว่า มาเยอขวัญเอย มาอาบน้ำโอ่งหิน มากินน้ำแอ่งใหญ่ แป้งแม่ใส่ทาโต งามพาโลผิวอ่อน ๆ เอานอน บ่อนแพรลาย เอานอนหงายโกนสอด ๆ พ่อแม่กอดไล่แมงวัน กะแจะจันทน์ตกแต่ง แก้มแป่งแส่ง แพงปานตา ยุงบินมาบ่ได้พ่อสิไล่ให้มันหนี ว่ามาเยอขวัญเอย มาฮอดแล้วให้เจ้าอยู่สวัสดี จงสุขี ตราบต่อเท่าอายุเจ้าได้ฮ้อยพระวัสสา ก็ข้าฯ เทอญ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง สาธุ

ผูกแขน ศรี ศรี ฝ้ายเส้นนี้แม่นฝ้ายหมอเฒ่า องค์พระพุทธเจ้าป่อนประทานมา มี ฤทธาปราบแพ้ซวงพ่อแม่กะให้หนี ฝูงพลายผีกะให้พ่าย กูสิไล่ให้สูหนี อย่าได้มาราวีหลานน้อย กูจักปราบให้สูหนีไปจ้อยด้วยพระคาถาว่า สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะ สังฆานุภาเวนะ สัพพะทุกขา สัพพะภะยา สัพพะโรคา วินาสสันตุ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง สาธุ


พื้นที่ให้เช่าลงโฆสณา..

สู่ขวัญแม่อยู่กรรม



สู่ขวัญแม่อยู่กรรม
แม่อยู่กรรม หมายถึง สตรีหลังคลอดบุตรใหม่ ๆ จะต้องดำเนินกรรมวิธีเพื่อให้มดลูก เข้าอู่เร็ว โดยการอยู่ไฟ (นอนบนแคร่ไม้ไผ่ ที่เบื้องล่างจะมีเตาไฟให้ความร้อนอยู่ตลอดเวลา) ต้อง ดื่มน้ำร้อนซึ่งมีความเชื่อว่า จะทำให้มีน้ำนมมากสำหรับลูกน้อย ห้ามกินของแสลงต่าง ๆ (จะทำให้ ผิดกระบูน) ซึ่งคนอีสานเรียกว่า คะลำ การปฏิบัติเหล่านี้มีความยากลำบาก จึงเรียกว่า "อยู่กรรม" นั่นเอง เมื่อออกไฟแล้วญาติพี่น้องมาสู่ขวัญให้ เพื่อแสดงความยินดีที่พ้นจากความทุกข์ยาก และแสดงความยินดีต่อลูกที่เกิดใหม่ เหตุทั้ง ๒ อย่างนี้ดลบันดาลให้แม่ออกกรรมดีอกดีใจ หายทุกข์หายโศก เห็นว่าโลกที่เราอยู่นี้เป็นโลกที่น่าอยู่น่าอาศัย เพราะญาติพี่น้องมาแสดงออกซึ่งความอาลัยใยดี ไม่มีใครแล้งน้ำใจ
รี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อราคีหมดหายจาก หมดความยากแนวคะลำ หมดฮอยกรรม นำไล่ ออกไฟใหม่เซามีแฮง ศรีจอมแพงทนลำบาก แสนทุกข์ยากนอนผิงไฟ ทรมานหัวใจอุกอั่งเอ้า คึดนำเจ้าลูกของตน นางสู้ทนกินน้ำฮ้อน นอนอยู่บ่อนแม่สะแนน แม่เอาแขนพาดคิงผ่าง แม่บ่ห่าง พอวา ควันเข้าตาและเข้าปาก แสนทุกยากข์ทรมาน แสนสงสารลูกอ่อน นอนอยู่บ่อนเสียงออแอ เสียงงอแงดิ้นกะแด่ว ลูกฮ้องแอ่วหิวนม สองมือโซมโจมเอาลูก ใจแม่ผูกเกิดสงสาร จั่งได้ทรมาน ขางไฟปิ้งจี่ นั่งอยู่ที่ไฟลน แม่อดทนกินน้ำฮ้อน ย้านลูกอ่อนหิวนม แม่บรรทมบ่พองีบ แม่ก็รีบตื่น จู๋ไฟ เสียงหายใจบ่ฮอดท้อง นอนล่องหง่องบ่ไปมา ถึงเวลาอาบน้ำฮ้อน บ่เดือดร้อน ใจสับสนฮีห่อน ฮีห่อน เบิ่งลูกอ่อนนอนในเปล เดินโซเซแม่หวิ่ง คึดนำแก้มปิ่งสิ่งบุตรตน สาละวนเป็นห่วง นอนบ่ ข่วงไปมา เหยียดสองขาอยู่ส้วยล้วย ส้อยล้อย
หย่างอ่อมอ้อยเวียนหัว ทางผู้ผัวหาฟืนหาตอก บ่หยับออกขางไฟ เบิ่งบ่อนใด๋หนังพอง เป็นบ่อน แม่ลูกอ่อนนอนสะแนน แม่หวงแหนเป็นห่วง ลูกนอนข่วงอยู่ไปมา แพงขวัญตาเหลือ หลาก ฮ้อนบ่ปากไฟลน แม่อดทนจนจ่อย ทุกข์บ่น้อยเหลือหลาย เกือบว่าตายแม่ฮ้อน แม่ลูกอ่อน ทรมาน แสนสงสารอยู่กรรมนำจี่ อยู่กับที่ปานตาย สินอนหงายกะบ่ได้ โบราณให้นอนตะแคง พลิก โตแฮงกะเจ็บปวด เจ็บไปรวดกายา ทั้งหูตาบ่สว่าง แม่นอนผ่างสิบสามคืน จนหมดฟืนหลายแหล่ง ปวดนำแข่งนำขา ทั้งหูตาและปาก แสนลำบากกินนอน บ่มีหมอนหมูนใส่ เจ็บฮอดไหล่หลังแอว
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าตกใจเต้นเห็นไฟมาผ่าง ขวัญเจ้าย่างอยู่ท่งกว้างให้มาเข้า สู่เฮือน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าหนีไปเล่นวารีสรงอาบ ลงแม่น้ำกะมาถ่อนอย่าสินาน ว่ามาเยอ ขวัญเอย ขวัญเจ้าไปอยู่ไฮ่กะให้มา ขวัญเจ้าไปอยู่นากะให้ต่าว ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปหา ซื้อแพรลาย ๆ ทั้งสิ่นหมี่ อย่ารีรออยู่พุ้นมาตุ้มอ่อนเสนห์ ว่ามาเยอขวัญเอย ลูกอ่อนน้อยนอนอู่ สายไหม ขวัญใจนางแอ่วนมกินจู้ ว่ามาเยอขวัญเอย ลูกเจ้าไห้สักกะลันฮ้องหาแม่ เจ้าอย่าแวว่าง เว้นเพลตึ้งให้ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ผัวเจ้าคองคอยถ้าเมียสิมาหาลูก เสียงนกฮูกกูกอยู่พุ้นให้ นางฟ้าวต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ไผสิเอานมป้อนอรชรลูกอ่อน ๆ ลูกนางนอนแอ่วจู้ดูหน้าแห่ง อี่ดู
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางพุ้นภูซูนไซง่อน บ่อนสงครามผ่าม้างนางน้อยให้ต่าว มา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางพุ้นพนมเปญเสียมราฐ ชมปราสาทหมื่นห้องให้นางน้อง ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางพุ้นหงสามะละแหม่ง ไปเมืองแสงเมืองกำแพงอย่าอยู่ ค้างนางหล้าให้ต่าวคืน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางใต้แดนไกลทะเลล่วง ทะเลหลวงอ่าว พุ้นลงน้ำล่องเฮือ ขวัญนางนุชนาถเนื้อให้กลับต่าวคืนมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปหาค้า ป๋า เฮือนชานลูกอ่อน ๆ เถิงยามนอนนางอย่าป๋าลูกไว้เสียงให้แอ่วนม ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไป บู๋ด้าว ดงดอนทางกะเหรี่ยง ขวัญเจ้าเฮียงหมู่แม้วแกวพุ้นให้ต่าวมา ขวัญเจ้าป๋าเฮือนไว้ไปเชียงตึง จีนตาด ขวัญเจ้าไปวาดแต่งแต้มนำแม้วหมู่กะเซอ
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางก้ำหนองกระแสร์แสนหย่าน ขวัญเจ้าไปอยู่บ้านนำ เชื้อเผ่าวงศ์ ขวัญเจ้าไปปนหมู่ม้งกะให้ต่าวคืนสา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปนอนค้างภูผา แสนหย่าน บ่อนสถานแห่งฮ้องภูฆ้องต่อแกว บ่อนต่อแม้วทางท่งไหหิน ทางดินแดนบ่อนเสือสิงห์ ช้าง ว่ามาเยอขวัญเอย อย่าไปทางไกลดั้นหิมะวันป่าไม้ใหญ่ นางอย่าไปเลาะค้างทางพุ้นบ่อนเซา นางอย่าเข้าเขตใหญ่วงกต ทางมันคดบ่อนมัทรีหลงด้าว บ่อนสาวนางแมนน้อยขุดกลอยมันเผิ่ม บ่อนขุดมันอีเซิ่มเสียมก่อมห่อมผา บ่อนมัทรีหน่อหล้าเสือใหญ่ตันทาง
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญนางแมนอย่าแล่นไปทางนั้น ทางมันตันพันซ้งสิหลงทางกลับ ต่าว ว่ามาเยอขวัญเอย ให้นางแพงฝั่งฟ้าวมาถ่อนอย่าสินอน อย่าไปซอนชมซ้อนนอนหนาวอยู่ กลางป่า ให้ทองสาต่อนหล้ามาถ่อนอย่าสินอน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเห็นห้องปรางค์ทอง พระยาเวส เห็นประเทศก่อตั้งหลังกว้างหมื่นวา นางอย่าช้าให้เจ้าต่าวมาเฮือน ยามเดือนหงาย อย่าสิมัวชมซ้อน อย่าไปนอนชมพั่วกะดังงาอยู่ในป่า ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเลาะก้ำทาง ภูเงินมโนราช เห็นปราสาทซ้องมองแล้วให่ต่าวมา อย่าชมบัวสระน้ำมโนราอโนดาด อย่าหลงถาด ๆ น้ำโตนเล่นล่องนะที
ว่ามาเยอขวัญเอย ผัวเจ้าอยู่ซอนลอน ซอนลอน ลูกนางนอนอยู่ซ้อยล้อย ซ้อยล้อย ให้ เจ้าอ๋ออ่อมอ้อยนางน้อยให้ค่อยมา พ่อเยอ ว่ามาเยอขวัญเอย พ่อเจ้านั่งคอยถ่า แม่เจ้านั่งคองหา อยู่สู่มื้อ พี่น้องอื้อๆ แซวๆ เว้าห่วงหา ว่ามาเยอขวัญเอย ให้เจ้ามาหาแก้วทาระกาลูกนอนอู่ มา เอาจู๋ใส่เจ้า มาเอาเข้าหย่ำป้อน นอนถ้าอยู่อู่ไหม ลูกเอย
สัพพะเตโช นะโม นะมะภะทะ อุ อะ มุ มะ มุน มา สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ สาธุ

คำผูกแขน โอม กัปปาสิกรัชชุยา พาหัง พันธะนัง เส้นฝ้ายผูกแขน กูสิบ่ว่าฝ้ายผูกแขน กูสิว่าฝ้ายศักดิ์สิทธิ์ พระพุทโธประทานให้ พระแก่นไท้ให้มาผูกแขนแม่อยู่กรรม เป็นสายธรรม โองการแปดหมื่นกับมีหลื่นมาอีกสี่พัน มาเป็นยันต์ป้องกันฮ้อยแปด มาแวดล้อมกันปอบกันพราย ผีทั้งหลายหนีไกลฮ้อยโยชน์ หนีทั้งโทษผิดเลือดผิดกรรม ด้วยเดชธรรมของพระพุทธเจ้า ว่า ระตะ นัตตะยัปปะภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ สาธุ


พื้นที่ว่างให้เช่าลงโฆสณา.....

คำกล่าวผูกแขนต่าง ๆ



ผูกแขนบ่าวสาวแต่งงาน
มศรี อมศรี ฝ้ายเส้นนี้แม่นฝ้ายพระยาแถน ป่อนแขนมาพ่อสิผูก เอาเป็นลูกของ พระยา ผูกก้ำซ้ายให้ขวัญเจ้ามา ผูกก้ำขวาให้ขวัญเจ้าอยู่ ให้เป็นคู่เทียมสอง ให้ปรองดองฮักห่อ อยู่นำพ่อคูณเฮือน หลายปีเดือนให้เจ้าได้ลูกน้อย ทั้งข้อยข้าแลเงินคำ มีผู้นำเงินล้าน มีผู้ให้บ้าน หลังงาม มีนาทามพันไฮ่ มีหมูหมาเป็ดไก่ช้างม้าและงัวควาย นอนตื่นสวยให้เจ้าได้เงินล้าน ออก จากบ้านอย่าได้มีศัตรู ให้มีผู้ส่อยซูขนหาบ มีโชคลาภเนืองนอง มีข้าวของเต็มอั่ง ให้เจ้าได้นั่งเป็น เศรษฐี สองสามีจงควรคู่ ให้ทั้งสองเจ้าอยู่ถาวร ยามกินนอนอย่าอึดอยาก ของเหลือปากโภชนะ อาหาร มีลูกหลานเต็มเหลือหลาก อย่าอึดอยากแนวใด๋ ให้ไปไวมาค่อง ให้ได้ท่องศีลธรรม จ่มมำๆ ไหว้พระเจ้า ให้เป็นพ่อเฒ่าแม่เฒ่าทั้งสอง ให้ได้ถือไม้เท้ายอดทอง ถือตะบองยอดเพชร อย่าได้บก เป็นหาดอย่าได้ขาดเขินเป็นวัง ให้สมหวังเหลือเหตุ ให้เป็นดั่งพระเวสสันดร คนออนซอนเหลือ หลาก มีลูกมากปานกะปูยามนา อุ อะ มุ มะ มูลมา สะวาหุมฯ
ผูกแขนทั่วไป
ฝ้ายอันนี้แม่นฝ้ายพระพรหม พระบรมมหาราช เครือเขากาดป่อนลงมา มีคาถาพระ อุปคุตอยู่นำ มีคาถายอดพระธรรมครบถ้วน พระยาอินทร์ล้วนส่งด่วนมาหา ส่งลงมาว่าให้ลูก ว่า ให้ผูกเอาขวัญ ว่าสมควรผูกไว้ ให้เป็นใหญ่ในโลกา ขวัญเข้ามาผูกแขนข้อ ผูกเอาหน่อคูณเฮือน ให้เจ้าใสปานเดือนอย่ามีเมฆ ให้เป็นเอกในเมืองคน อย่ายากจนอึดอยาก ยามเจ้าปากมีคนถาม ผิวพรรณงามผุดผ่อง สีใสส่องดั่งทองทา ยามไปมาอย่าอืดอาด ยัวระยาตรดั่งพระยาช้างสาร กับ ทั้งบริวารพอหมื่น ให้ล้นหลื่นคนทั้งหลาย มีหญิงชายเป็นข้อยข้า มีช้างม้าโตงาม มีคนหามแหนแห่ ให้เจ้าดีกว่าพ่อกว่าแม่ทั้งหลาย มีของขายเต็มบ้าน มีอยู่ฮ้านเนืองนอง มีนาหนองและนาห้วย มี คนช่วยการงาน อายุนานปานพระอุมา และนางวิสาขะสุขเลิศ แสนประเสริฐดั่งนางผุสดี มีขันติ ดั่งพระเตมีใบ้ ให้เจ้าใหญ่ดั่งพระอิศวรอยู่เขาไกรลาศ งามองอาจดั่งพระนารายณ์ บ่มีไผมาท่อ คือ น้อยหน่อสีดา มีปัญญาดั่งศรีปราชญ์ ให้ฉลาดดั่งศรีธนญชัย คิดอันใดให้เจ้าได้ดั่งคำมัก คำ ปรารถนา มะ อะ อุ อุ มะ นะ ชา ลิ ติ สาธุฯ
ผูกแขนเด็กน้อย
ศรี ศรี ด้ายเส้นนี้แม่นด้ายพระยาพาลีผู้มีอำนาจ ผู้องอาจในขีดขีน กับทั้งพ่อพระยาอินทร์ แถนลอแถนหล่อ ส่งมาให้น้อยหน่อลูกพระอิศวร บรบวรทุกสิ่ง ให้เป็นมิ่งมุงคุล ว่าบุญเจ้าเกิดมาแต่ แถน ว่าแนนเจ้ามาแต่ฟ้า พระหน่อหล้านอนอู่สายไหม จอมพระทัยแก้วแก่น ผูกแขนข้างซ้ายให้ เจ้าเป็นพระยา ผูกข้างขวาให้ได้เป็นเอก ให้ได้พรพระปัจเจกอรหันต์ มารวมกันอยู่กับพ่อ ผู้เผิ่นก่อ แปลงมา กับมารดาผู้ให้จู้ให้เจ้าอยู่นอนเปล อย่าหันเหไปอยู่ป่า ให้เจ้ามาอยู่ท่าในโฮง ถึงสามโมง ให้เจ้าด่วน อย่าไม่วนอยู่ในไพร สัพพะเสนียดจัญไรจงหายหนี ให้เจ้าสุขีตราบเท่าอายุเจ้าได้ฮ้อย ขวบพันวัสสา ทีฆายุตา สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ สาธุฯ
สู่ขวัญน้อยก่อนแต่งงาน
รี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อดิถี อะมุตตะโชค โตกใบนี้แม่นโตกไม้จันทร์ ขันอันนี้แม่น ขันมหาราช จากปราสาทอินทรา ป่อนลงมาให้หมู่เจ้า ให้ผู้เฒ่าแต่งพาขวัญ ศรีองค์อวนอ่อนน้อย สองแจ่มจ้อยนั่งเฮียงกัน มีทั้งขันเบ็ญจมาส งามองอาจช่อมาลา ผู้ได้มาพบพ้อ งามกะด้อคนมา เห็น แต่งแต่เว็นฮอดฮุ่งเช้า สองหน่อเง้าพระยาแถน แต่เมืองแมนปั้นป่อน มาอยู่บ่อนเคหา มาอยู่ ชายคาฮ่วมห้อง เฮ็ดถืกต้องตามตำรา
อาคัจฉาหิ ชะยะตุ ภะวัง ชะยะมังคลา ติเรกะเตโช ล้ำเลิศ สุดประเสริฐเหลือหลาย เห็น เดือนหงายเจ้าอย่าได้ด่วน จิตอย่าป่วนไปไกล อย่าไปไสให้อยู่ห้อง อยู่ฮ่วมน้องพัวพัน อยู่ดอมกัน ฮักห่อ เป็นดังลูกพ่อ แม่เดียวกัน เมืองสวรรค์ปั้นป่อน ตั้งแต่ก่อนชาติหนหลัง ตามมายังมนุษย์โลก จั่งเป็นโชคแต่บุพเพ อะตีเต กาเล อะติชานาติ ตั้งแต่กี้เคยฮ่วมกันมา ดวงชาตาจั่งถืกต้อง จั่งได้มา ฮ่วมห้องเตียงนอน ให้เจ้าอยู่เป็นคู่สอนลอน สอนลอนทุกค่ำเช้า ว่ามาเยอขวัญเอย
ขวัญเจ้าไปเที่ยวเล่นหิมะวัน ป่าไม้ใหญ่ ขวัญเจ้าไปเที่ยวเล่นไพรหนาพนามาส ขวัญเจ้า ไปเห็นปราสาทหมื่นห้อง ทองเหลื่อมสง่าศรี เห็นนารีแย้มแนมนำเขา กะให้ต่าว ขวัญเจ้าสาวเห็น บ่าวน้อยเชิงชู้ให้ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเที่ยวค้าแดนไกลประเทศต่าง ขวัญเจ้าย่าง ข้ามน้ำทะเลกว้างย่านไกล กะให้มาสามื้อนี้วันนี้
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางก้ำตอนเหนือหาเที่ยว ไปคนเดียวเลาะเล่นอิดแล้วให้ ต่าวมา ขวัญเจ้าพาสาวเล่นวารีลงอาบ ล้างส่วยแล้วขวัญเจ้าให้ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญ เจ้าไปทางก้ำหงสา มะละแม่ง ขวัญจอมแพงไปอยู่พุ้นโตเจ้าให้ดุ่งมา เมืองลังกาทางพุ้นกลางนะที ปากอ่าว เห็นสาวงามอย่าสิเว้า เด้อเจ้าอย่าสิหลง เมืองหงสาอยู่หย่อน ๆ นครลุงอยู่ห่าง ๆ เมือง เชียงตุงอยู่ซ้ง ๆ โขงกั้นให้ด่วนมา
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าเคยไปเล่นแดนแกวแม้วกะเหรี่ยง อย่าฟังเสียงถูกเอิ้นให้ เมินหน้าต่าวมา ขวัญเจ้าไปหาแก้วนำแกวทางไซ่ง่อน ให้เจ้ากลับต่าวย่อนมาซ้อนคู่เคียง ว่ามาเยอ ขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเที่ยวเล่นพนมเปญเขมรต่ำ พระตะบองฝ่ายก้ำทางพุ้นบ่อนชม นครทมเขมร พุ้น สาวงามเสียมราฐ ชมปราสาทนครวัดอย่าได้ช้ามาถ่อนอย่าอยู่นาน
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าเลยไปพุ้นภูชุนสัตนาค หลวงพระบางให้ย่างย้ายกลายก้ำให้ หล่ำมา ขวัญหูขวัญตาพร้อมเกษาแขนข้อ ทั้งขวัญคอไหล่ท้องให้มาห้องแห่ง เฮาขวัญเลาคีงตน ตัวด้วยขวัญมวยผมขาแข่ง ขวัญคำแพงลูกแก้วฟังแล้วต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้ เมามัวช้า ให้มาหานางนาถ มาปราสาทใหญ่กว้างสองเฒ่าอยู่คอย
เอถะ ตาตา ปิยะปุตตะกา คันขวัญมาเถิงแล้วเฮือนซานบ้านส่อง ให้เจ้านอนอยู่ห้อง สบายเนื้ออย่าคะนิง ว่ามาเยอขวัญเอย โพยภัยฮ้ายอันตรายอย่ามาเบียด อย่าให้ความเดือดฮ้อน มาใกล้ให้ห่างหนี ขอให้มีสุขล้นอนันตังตื้อติ่ว หิวหอดฮ้ายให้หายเสี่ยงอย่ามี สมบัติล้นอนันตังมูล มาก อย่าได้ทุกข์ยากฮ้ายหลายล้นสิ่งของ ให้เนืองนองคือน้ำ ไหลมาอานันต์เนก ให้เป็นเอกลื่นล้น คนย่องทั่วไตร คึดใด๋ให้เจ้าได้สมดั่งมโนหมาย ทั้งเงินคำมีหลาย โกฏิกือกองล้าน ให้กินทานเหลือ ล้นอานิสงฆ์นำส่ง ตามประสงค์คึดไว้มโนแม้นดั่งพระทัย
ว่ามาเยอขวัญเอย คันนอนตื่นให้เจ้าเห็นเงินเต็มพา คันเจ้าหลับตาให้เจ้าฝันเห็น หน่วยแก้ว ให้เจ้าคลาดแคล้วจากมลทิน มีของกินเหลือหลาก ลูกหลานมากมาโฮม เสียงทม ๆ คีคื่น ให้ล้นลื่นคนทั้งปวง อย่าขัดขวางโชคลาภ มีคนกราบวันทา ให้มีไฮ่แสนวามีนาพันไฮ่ มีทั้งไก่ และหมูหมา มหิสา โคณา คือว่า งัวควายและช้างม้า มีข้อยข้าพอพัน มาโฮมกันชูส่อย มีคนส่อย ญาติกา มีคนมาแหนแห่ ให้เจ้าสุขยามแก่มีกินทาน มีสมภารแก่กล้า ให้มีหน้าคนชม เสียงทม ๆ คนยอย่อง มีพี่น้องเหลือหลายกินทานไปได้บุญมาก มีหลายหลากบุญนำ หลุดเวรกรรมอย่ามาสู่ ให้ได้หมู่เป็นเศรษฐี ให้เจ้ามีแสนสิ่ง

ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้ามาโฮมอยู่ อย่าป๋าหมู่ไล่หนี ขวัญเจ้าจงมีสุขอาจ อยู่ปราสาท หลังสูง มีคนจูงในทางเลิศ แสนประเสริฐเหลือหลาย ให้เจ้ามีเฮือนซานหลังใหญ่ ให้มีไพร่พลแสน ดั่งเมืองแมนทิพย์อาสน์ มีอำนาจดั่งพระยาราชสีห์ มีเสียงดีดั่งนกการะเวก ให้เป็นเอกในเมืองคน อย่าได้จนอึดอยาก ทุกสิ่งมากเหลือตา มีเสนาแหนแห่ ให้ลื่นพ่อลื่นแม่เงินคำ ทั้งศีลธรรมล้ำเลิศ แสนประเสริฐสุขสันต์ มานำกันกุศลเก่า ทั้งพงศ์เผ่าวงศ์วาน ทั้งกินทานอย่าได้ขาด ทั้งตักบาตร และจังหัน จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง มังสังเนื้อสังขารอย่าเหี่ยว คนเหลียว เห็นให้ผ่องแผ้ว เห็นแล้วส่องนำ ทั้งกรรมนั้นโทษา มีโทษความโกรธนั้นหายสิ้นปิ่นหนี อย่าได้มีมา ต้องสนองนำกรรมไล่ เฮ็ดอันใด๋ค้าอันใด๋กะให้ได้ สมแม้นปรารถนา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะ ธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ ขอจงเป็นสุข เป็นสุข ทุกทิพาราตรี เทอญฯ สาธุ


พื้นที่ว่างให้เช่าลงโฆสณา...

สู่ขวัญเล้า



ขวเล
รี ศรี ปฐพีแผ่นฮาบ ผู้ข้าขาบสามที ได้เล้าข้าวดีหลังใหญ่ เอาข้าวใส่อาศัย มาแต่ใส เล้าหลังนี้ ตั้งแต่กี้มาบ่เห็น แม่นไผเข็นมาแหว่ แม่นไผแก่มาหา จั่งได้มาคูณค่า ข้าวพันตาใส่บ่เต็ม ตอกเสาเข็ญขวัญแฮก เศรษฐีแทกตงขาง จั่งเอาวางมาก่อ เล้าข้าวพ่อพระยาอินทร์ ไผได้กินข้าวใน เล้า ฮอดพระเจ้าทรงธรรม เผิ่นมานำสอดส่อง บ่มีป่องแปวหนู บ่มีฮูฮอยปวก ปลายบ่กวกเป็นโกน ฮูลิงโทนและนกเค้า เป็นไม้เก่าอินทร์ทรง จั่งเอาลงมาตัดใส่ ไม้แต้ใหญ่ลำแข็ง ทั้งกกแดงและกกดู่ ไปเอาอยู่หิมาลัย บ่มีไผเอาได้ เผิ่นให้ข่อยผู้เดียว อยู่ภูเขียวบ่ได้เผี่ยง อยู่ภูเวียงบ่ได้ท่อเอาไป เสาอยู่ ในเผิ่นให้ปลอก เส้นอยู่นอกเผิ่นให้ฟัน มารวมกันเป็นเสาเล้า ใส่ข้าวจ้าวและข้าวเหนียว
ไผเหลียวมาว่าแม่นปราสาท งามอาดหลาดปานโฮงหลวง บ่เข็ดขวางคูณค้ำ ใส่ข้าวก่ำ ได้พอซาว ใส่ข้าวขาวได้แสนหาบ ยกมือกราบสามหน เทพอยู่บนจงมาส่อง เฮ็ดนาฮ่องได้ร้อย เกวียน แก่มาเฮือนคนบอกเว้า ขึ้นใส่เล้าหลังสูง ป้ากับลุงเผิ่นมาส่อย เอาฆ้อนต่อยตีขาง ตีแขนนาง และกะทอด เอามาฮอดตงขาง เอามาวางแป้นพาด เอามากาดวางตงใส่ ข้าวเปลือกใส่ตั้งแต่วาน เอาจากลานเกวียนแก่ บ่ได้แหว่ไปใส ไปทางใด๋อย่าได้ห่าง อย่าได้ว่างเติมมา ข้าวอยู่นามาสู่ แม่ โภสพอยู่เชยชม ไม้แป้นลมเอามาแต่ฟ้า พระหน่อหล้าเอามาแฝง ไม้ละแนงข่าวขื่อ ไม้อันชื่อจันทัน มารวมกันหน้าต่าง อยู่บ่ห่างปักกะตู อัดปูลูทอข้าวปลูก
แบ่งให้ลูกสาวใหญ่เก้าลำเกวียน แก่เมือเฮือนแต่เช้า บ่บกเล้าเต็มปอลอ อยู่ในทอแนว ข้าวป้อง อยู่ในห้องข้าวปลาเข็ง เสียงคื่นเค็งเกวียนแก่ พ่อค้าแหว่มาเซา หอมเป็นเลาข้าวแม่ฮ้าง เต็มใต้ล่างเหลือหลาย แม่นสิขายกะบ่เบิ๊ดบ่บกบ่เสียง ยังพอเลี้ยงอยู่เต็มตัน ตักเบิ๊ดวันกะบ่เบิ๊ด บ่เปล่า ยังคือเก่าเล้าหลังคูณ ยังเต็มพูนสวดโจ้โก้ สูงพ้นโผล่ข้าวเต็มฉาง เหลียวเห็นขางจนแอ่น นี้จั่งแม่นเล้าข้าวดี เล้าข้าวมีอำนาจ แม่นบ่ขาดอึดหาย มีอยู่หลายคือเก่า จั่งได้เล่าเอาขวัญ จั่งได้ ชวนเอานารถ ไม้แป้นกาดฮองตง มาแต่โฮงอุปราช เอามาพาดแทนทองคำ เอามานำแต่พระเจ้า จั่งได้เว้าว่า
มาเยอขวัญเอย ขวัญไม้ใหญ่ลำสูง ขวัญไม้ยูงลำสื่อ มาเป็นขื่อตงขาง ขวัญไม้ยางและ ไม้แต้ เอาเกวียนแก่มาแต่ภูเงินภูทอง เอามาฮองใส่ข้าว มาเฮ็ดเล้าหลังงาม ไผมาถามว่าปราสาท ยาวอาดหลาดมุงดี สังกะสีบ่ฮั่ว ลูกหลานคั่วไปหา จั่งได้มาปลูกไว้ เป็นหลังใหญ่ถาวร ปานเฮือน นอนพระยาเวส อยู่ในเขตสีพี เป็นหลังดีสีส่อง ข้าวนาฮ่องและนาทาม เขาได้หามทั้งได้หาบ ผู้ข้า กราบสามหน อย่าสิจนทางข้าว ขอเผิ่งเจ้าเล้าหลังดี เป็นเศรษฐีมีมั่ง ให้ได้นั่งนอนกิน ว่ามาเยอ ขวัญเอย ขวัญไม่ดู่อย่าได้หนี ไม้แสนดีทั้งไม้แดงและไม้แต่ อย่าได้แหว่หนีไปไกล อย่าไปใสให้มา อยู่ มาเป็นหมู่ขวัญไม้ยูง เสาหลังสูงไม้พันชาติ งามองอาจสมศรี
ว่ามาเยอขวัญเอย เจ้าอย่าไปอยู่ไพรสณฑ์ เจ้าอย่าไปอยู่ปนในเถื่อน กับทั้งไม้ตะเคียน แป้นแอ้ม หัวแย้มๆ นางตะเคียน มาเป็นเฮือนอย่าได้เศร้า มาเป็นเล้าคนดี เป็นศักดิ์ศรีเล้าใหญ่ เฮียกข้าวใส่เต็มฉาง คนกายทางเหลียวเบิ่งเล้า เหลียวเบิ่งเจ้าผู้รักษา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้า อย่าได้ด่วนไปอยู่ไกล ไปอยู่ไพรบ่อนเก่า ไปอยู่เหล่าเขาสิฟัน ว่ามาเยอขวัญเอย มาอยู่บ้านจักได้ เป็นเศรษฐี อยู่เป็นปีจักเก้าร้อย มีลูกหลานน้อยพอกัน เขาตำข้าวสักกะลันคกมองข้างเจ้า ผู้เป็น เล้าอย่าสะเทือน ตำเป็นเดือนตำเป็นปีทั้งซ้อมต่าว อย่าโอ้อ่าวซังสาว ข้าวขาวๆ เอาจากเล้า ขอ บอกเจ้าเฮ็ดกินทาน พระภูบาลหน่อฟ้า ใต้แหล่งหล้าได้อาศัย ทั้งฟืนไฟอยู่ตะหล่าง อยู่กะส่างอย่า หัวซา พวกชาวนาอาศัยเจ้า อาศัยเล้าข้าวจั่งยัง ขอจงฟังผู้ข้าบอก ยามสงฆ์ออกภิกขาจาร เตรียม จังหันและตักบาตร ตักบ่ขาดหยาดน้ำหา เอาเจ้ามาจากกลางป่า เผิ่นจั่งว่าสู่ขวัญเอา
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญหม่อมเจ้า ผู้เป็นเล้ารักษา แม่โภสพมานองอั่ง ให้สมดั่งมะโน หมาย ไชยะตุ ภะวัง ไชยะมัง คะลัง อุ อะ มุ มะ มูล มา มะหา มูลมัง สะวาหุมฯ สาธุฯ
ความทำน้ำมนต์รดเล้าเข้า
มา ขะโย มา วะโย มัยหัง มา จะ โกจิ อุปัททะโว ธัญญะ ธะมานิ ปะวัสสันตุ ธะนัญชะ ยัสสะ ยะถาฆะเร สุวัณณานิ หิรัญญา จะ สัพพะโภคา จะ ระตะนา ปะวัส สันตุ เม เอวัง ฆะเร สุมะนะชะฏิลัสสะ จะ อะนาถะปิณฑิ กัสสะ โชติกะสุงมังคะลัสสะ จะ มันธาตุเวสสันตะรัสสะ จะปะ วัสสันติ ยะถา ฆะเร เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สัพพะ สิทธิ ภะวันตุ เมฯ

บทนี้ทำน้ำมนต์รดเล้าข้าวดีนักแล ฯ

  พื้นที่ว่างให้เช่าโฆสณา...

สู่ขวัญนา



ว่า ศรี ศรี วันนี้เป็นวันดี วันเศรษฐีเฒ่านกเอี้ยง เผิ่นได้เสี่ยงทำนายฝัน อยู่หลายวันเผิ่น ฝันหลาก เผิ่นจั่งฝากแม่ธรณี เผิ่นฝันดีบ่ตกยาก บ่ลำบากการทำนา พสุธาเก้าพันไฮ่ เผิ่นได้ใส่ข้าว สาลี ธรณีให้เลี้ยงโลก ให้มีโชคการทำนา แต่เดิมดากกเค้า คราวพระเจ้าพุทธโคดม พระบรมได้ ห้ามญาติ เผิ่นประกาศแบ่งเป็นตอน ตาออนซอนให้ถึกต้อง พวกพี่น้องนาหลุ่มและนาบ๋า พากันมา ยาดเอาน้ำ สองฝ่ายก้ำเมืองกบิล พอได้ยินเผยพระโอษฐ์ ให้ละโกรธและความหลง พระภุชงค์จึงได้ เทศน์ จั่งแบ่งเขตเป็นคันนา แบ่งกันมาขุดเป็นฮ่อง ให้เป็นป่องวารี ให้ได้มีทั้งสองฝ่าย น้ำไหลก่าย ไปเนืองนอง จั่งจับจองแบ่งกันใหม่ ป้านคันใหญ่เป็นไฮ่นา จั่งถือมาฮอดมื้อนี้ พระจั่งซี้ตาออนซอน ผ้าจีวรครองบ่า ตำราว่าคือตานา องค์พระศาสดาตรัสบอก ให้แบ่งออกเป็นตา เป็นไฮ่นาทั่วผืนผ้า ฮอดสังฆาฏิพาดบ่าภิกษุสงฆ์ พุทธองค์บัญญัติบอก ห้ามตัดอกพระวินัย เอาไปไสกะให้อยู่ ให้คือ หมู่พุทธา
ท่านจั่งว่าเป็นไฮ่นา บาดนี้มาสิไถหว่าน สิได้ผ่านคองไถ มาเร็วไวกราบบาท บ่ได้ขาดฟ้า ใหม่ลงหนอง เสียงเนืองนองอึ่งอ่าง อยู่ใต้หล่างควายบักคูณ เบิ่งเผิ่นสูนฟืนฟาด เคาบ่ขาดสนดัง ปานสิพังเผิ่นห่าว ฟ้าวฝั่นข่าวเตรียมไถ ฝนตกไหลน้ำอั่ง ฝนไหลหลั่งตกลงมา เต็มไฮ่นาน้ำใหม่ กบเขียดไข่ปูปลา น้ำไฮ่นาล้นหลาก หลายเหลือมากเนืองนอง แสงกะบองออกจับเขียด ท่วมนา เอือดและนาทาม นาไผงามได้ใส่ฝุ่น ได้หลกฮุ่นฝักพีพวย ยามฝนฮวยเดือนหกออกใหม่ จับเอาใกล้ เฮือนไผเฮือนมัน ใบรวมโฮมกันเลี้ยงเจ้าปู่ เฒ่าจ้ำอยู่พิจารณา คางไก่มาแก๋ออก จั่งได้บอกลูก หลาน คางไก่ยานยาวโค้ง ฝนสิส่งปลายปี ฝนสิดีหลากหล้า น้ำอยู่ฟ้าเหลือหลาย แล้วระบายคางไก่ อีก เอามือฉีกออกมานำ จ่มมำๆ ชี้แก่แด่ เบิ่งหั่นแน่ดีคือกัน พอฮอดวันว่าตาแฮก เขากะแบกเอาไถ เอาลงไปเขยใหม่ เอาใจใส่ไถนาดี เอาแส่ตีควายบักด่อน ย่างออกก่อนว่าฮือ-ฮือ มือหนึ่งถือกำเชือก มือหนึ่งเถือกกำคันไถ ควายย่างไปว่าฮือฮ่อง-ฮือฮ่อง ดันหลังก่องก้อนขี้ไถ
ขออภัยนำแม่เจ้า สิเฮ็ดข้าวทำนา ขอขะมาพระแม่ ยามลูกแก่ไถไป ยามไถไวอย่าได้ พลาด ยามหลานคลาดอย่าโกรธา หลานทำนาหมายตักบาตร บ่ได้ขาดกินทาน ขอสมภารแก่กล้า พวกตูข้าทำนากิน ยามฝนรินบ่ได้อยู่ ทำเป็นหมู่นาดี มาหลายปีแต่พร้อมโลก นับว่าโชคได้นาหนอง ปานได้ทองสามเส้า ปานได้ข้าวพันเล่มเกวียน เฮ็ดหมุนเวียนบ่ได้ขาด ขอพระบาทแม่เจ้าธรณี อย่าได้มีใจตื่น อย่าแตกตื่นไปใส ขออภัยนำเจ้าแม่ ให้ได้แต่โภชนา ให้ได้มาทั้งข้าวเหนียวและข้าว จ้าว ข้าวช้างน้าว ทั้งข้าวขาว ข้างต้นยาวหอมอ่อน ให้ได้ป่อนทานัง ให้ได้ฝังข้าวบักหม่วย งามป่วย ล่วยข้าวงาช้างแลข้าวดอ เต็มในทอนั่นแม่นข้าวอีก่ำ ได้กินหน่ำนั่นแม่นข้าวสามเดือน ให้เต็มเฮือน อย่าเขินขาด สายน้ำไหลหลากเนืองนอง เดือนสิบสองให้ได้กินได้เกี่ยว ฮวงอย่าเหี่ยวสุกงอม ทั้งข้าว หอมเฮ็ดข้าวเม่า ให้เต็มเล้าสิได้กินได้ทาน เป็นข้าวสารเต็มไถ่ เลี้ยงคนใหญ่ทั้งโลกา มีนาเหนือ และนาใต้ นาท่งใหญ่มีหนอง ปลาเนืองนองดุกค่อ นามูลพ่อนาเซและนาห้วย ให้ได้ช่วยชูนำ พระ จอมธรรม์ฉันยามเช้า ถวายข้าวสังฆทาน เลี้ยงลูกหลานบ่ได้ขาด เม็ดข้าวอาจงามหลาย เหลือกิน ขายเงินอั่ง บ่ได้นั่งงอมือ เอาเกี่ยวถือก๋อเกี่ยว ข้าวบ่เหี่ยวงามดี ข้าวนาปีได้หลายหาบ
ผู้ข้าขาบแม่ธรณี อยู่ในน้ำให้มีปลา อยู่ในนาให้มีข้าว ขอแม่เจ้าจงอิดู ลูกหลานดู๋บนแม่ บาท เอาใส่ถาดเมี่ยงหมากและพาหวาน ของกินทานทั้งตาแฮก เอามาแจกผู้รักษา เจ้าจงมารับเอา สามื้อนี้วันนี้ ให้กอถี่ลำงาม อยู่นาทามและนาโคก ให้มีโชคเหลือตา ข้าวเต็มนาเหลืองอร่าม ว่ามา เยอขวัญเอย ให้เจ้ามาทั้งขวัญนาและขวัญข้าว ขวัญแม่เจ้าธรณี เจ้าจงมารวมอยู่ มาเป็นหมู่ให้ลูก ให้หลาน ให้ได้กินได้ทานอย่าให้ขาด อย่าได้เขินเป็นหาด อย่าได้ขาดเป็นวัง อย่าได้พังเพห่าง อย่า ได้ว่างเว้นหนี ให้ข้าวฮวงยาวพอศอก ให้ต้นข้าวสูงออกพอวา ให้เต็มนาท่งใหญ่ สัตว์น้อยใหญ่อย่า ได้มาราวี นกตัวดีอย่าบินผ่าน นกจาบปากก่านอย่ามาวน ขอให้ได้เลี้ยงลูกหลาน ตราบต่อเท่าอายุ เข้าห้าพันวัสสาก็ข้าเทอญฯ ภะ สะ ภะ โภชะนัง มะหาลาภัง สุขัง โหตุ สาธุ
คาถาเสกน้ำรดนา
หลังจากสูตรขวัญนาแล้ว ให้ทำน้ำมนต์รดนา คาถาว่า ดังนี้
1.        ว่า นะโม ตัสสะ ฯลฯ สัมมา สัมพุทธัสสะ 3 จบ
2.        ว่า ไตรสรณะคม พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิฯลฯ ตะติยัมปิฯลฯ ว่าเหมือนเดิม
3.        นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมัง คะลัง
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมัง คะลัง
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมัง คะลัง
4.        สักกัตตะวา พุทธะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง หิตัง เทวะมนุสสานัง พุทธะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เต
สักกัตตะวา ธัมมะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง หิตัง เทวะมนุสสานัง ธัมมะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เต
สักกัตตะวา สังฆะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง หิตัง เทวะมนุสสานัง สังฆะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เต

กก กอ ดอ ดก ท่านว่า ข้าวบ่มีโรค บ่เป็นบั่ว หมากดกดั้วงามดี ดีนักแล


 พื้นที่ว่างในการโฆสณา..

สู่ขวัญเกวียน-รถ



  ยน-
§  เกวียน เป็นพาหนะรุ่นแรกที่ทำขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางไปมา และการขนสัมภาระสิ่งของ มิใช่จะเป็นพาหนะของคนธรรมดาสามัญเท่านั้น พระราชามหากษัตริย์ก็ใช้เป็นพาหนะ แต่เรียก ราชยานบ้าง เกวียนคำบ้าง ราชรถบ้าง ซึ่งก็คือเกวียนนั่นเอง การสู่ขวัญเกวียนก็คือ การสอนให้คนทำเกวียนรักษาเกวียน และใช้เกวียนให้เป็น เพราะเกวียนเป็นเสมือนเพื่อนร่วมสุขร่วมทุกข์ในการเดินทางของคนอีสาน ถ้าทำไม่เป็น รักษาไม่เป็นแล้ว ก็ไม่มีเพื่อนร่วมเดินทาง ตนก็จะประสบกับความลำบากตรากตรำ การสู่ขวัญเกวียนเป็นกุศโลบายอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งส่อแสดงให้เห็นความเฉลียวฉลาดของคนอีสาน คำสูตรขวัญเกวียนมีดังนี้
§  รี ศรี ขึ้นดิถีปีใหม่ ข้าผู้ใหญ่ถ่ายราศรี พระภูมีสุริเยศ ถึงฤดูเขตเดือนสาม นางโสม งามเกวียนแก้ว อาบน้ำแล้วจึงลาพร ลมพัดวอนแห้งแล้ว เอาพาแก้วเบิกคูณขวัญ บรบวรพลูพัน และหมากจีบ ใบกล้วยตีบเฮ็ดบายศรี มีทั้งหวีและต่างแก้ว งามลวดแล้วเอามาแยง ของหอมแพง และแป้งป่น งามเลิศล้นปลอกแขน มีทั้งแหวนและสายสร้อย ฝูงตูข่อยจั่งมาหา มีมาลาแลดอกไม้ หามาไว้ใส่บูชา มีผลาและไก่ต้ม มีของส้มและเผือกมัน มากวนกันถวายแก่ พ่อและแม่มาโฮม เอาแขนโจมพาโตก ขอเผิ่งโชคคูณขวัญ ว่า ศรี ศรี สิทธิพระพร เกษรหอมห่วงเฮ้า ข่อยจักเชิญ จอมเจ้าเกวียนคำ ทั้งกงกำและดุมแอก ทั้งทวยแปรกและคานหลัง ทั้งประทุนและหนังผูก เฮ็ดให้ ถูกอยู่หัวเกวียน
§  ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปขนไม้ในดงเดินยาก ขวัญเจ้าไปขนหญ้าแฝกมุงหนา ขวัญเจ้าไปขนหญ้าคามุงถี่ ก็ให้มามื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้าไปรับจ้างขนข้าวในฉาง ขวัญเจ้าไปรับจ้าง ขนทรายและดินจี่ ขวัญเจ้าไปอยู่ที่ทางไกลกะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย ให้คืนมาสถาน เฮาอยู่ อย่าไปอยู่แกมหมู่ไม้แนวเหง้าป่งใบ ขวัญทวกให้มาอยู่ทวกทั้งสอง ขวัญคานให้มาอยู่คาน ล่างง่าง อย่าได้ห่างไปไกล อย่าไปใสขวัญแก้ว ว่ามาเยอขวัญเอย มื้อนี้แม่นมือดี ข้าจักทำบายศรี เกวียนแก้ว ทำขวัญแล้วให้เจ้าค่ำคูณเฮือน ถึงฤดูเดือนขวบเข้า ให้เจ้าฮักบ่าไว้ยังงัวควาย ให้สบาย ดีบ่ยาก ลำบากให้เจ้าค่อยเพียรอด ทางมันคดต้นไม้ใหญ่ขวางทาง ฮากไม้วางขวางหน้าอย่าได้ล้ม หักตะแคง
§  ว่ามาเยอขวัญเอย ให้มาสามื้อนี้วันนี้ ให้เจ้ามีแฮงดั่งราชรถ ให้งามงดคงทน ใส่คนหนัก กะให้ได้ บรรทุกไม้พันลำ ให้ไปนำทางแล่น ไปดินแก่น ดินทราย บ่พองายให้ฮอดบ้าน บ่ได้ย้าน กำลังมี เป็นเกวียนดีแสนประเสริฐ เจ้ามาเกิดเป็นมุงคุล เกวียนมีบุญฮ้อยเล่ม ว่ามาเยอขวัญเอย อย่าได้ค่นหักพัง ใส่อีหยังกะให้ได้ เอาไม้ลำงาม เก่งกว่าเกวียนท้าวคันทะนามแก่ไม้ แก่ไม้ไผ่และ ไม้บง สมประสงค์จิตจ่อ เกวียนมูลพ่ออยู่หลายปี มีรังสีเฮืองฮุ่ง ฝูงตูข้าให้อยู่เย็น ความบ่ดีอย่าได้ เห็น ความเคราะห์เข็ญอย่าได้พ้อ ให้เทียมหน่อรถพระอินทร์ ไชยะตุ ภะวัง ไชยะมังคะละ มะหา มุงคุล สาธุฯ
§  (ถ้าสูตรให้รถให้เปลี่ยนคำว่าเกวียนเป็นรถทั้งหมด)
§  คำผูกทวกเกวียน
§  นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา

§  ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะวาจาว่า พระรัตนตรัยเจ้าเป็นที่พึ่งของเฮา เฮาบ่เอาอันใดเป็นที่พึ่ง ด้วยสัจจะวาจานี้ขอเกวียน (รถ) จงไปมาสวัสดีมีสุขีไปมาฮอด อยู่ตลอดบ่มีภัย ความจัญไรอย่า ได้พ้อ ให้พ้อแต่ลาภาหนุนกันมาพร้อมพรั่ง อั่งๆ ขึ้นคือน้ำ น้ำแม่นะที มะอะอุ อุ อะ มะ นะ ชา ลิ ติ สาธุ 

พพื้นที่ว่างในการโฆสณา..

สู่ขวัญข้าว



ขวข้
§  การทำพิธีเชิญขวัญข้าว เรียก สู่ขวัญเข้า ข้าวเป็นอาหารหลักของคนอีสาน คนอีสานถึงจะได้กินขนมนมเนยก็ไม่ลืมข้าวเหนียวนึ่ง กินข้าวเหนียวนึ่งลงไปรู้สึกมันอิ่มท้อง ดังนั้นชาวอีสานจึงนิยมทำนามาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์จนถึงปัจจุบัน แม้อาชีพอื่นจะดีกว่าก็ไม่ลืมนา พ่อแม่อีสานสอนลูกหลานว่า สิบพ่อค้ากะมาไหว้พ่อนา พ่อค้าถึงเขาจะมีเงินทองเขาก็กินเงินทองไม่ได้ ถ้าเรานัดเล่นงานพ่อค้าเพียงไม่ขายข้าวอย่างเดียว พ่อค้าต้องหมูบกะแต จริงหรือไม่ไม่ทราบ (เพราะสมัย พ.ศ. ๒๕๕๗ นี้ ชาวนาเป็นหนี้พ่อค้า กู้หนี้ยืมสิน ขอสินเชื่อปุ๋ยเขามา เอิ้นว่า ขายเข้าเขียว คือ จำนองข้าวล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ยังไม่ออกรวง แถมยังถืกรัฐบาลขี้โกงรับจำนำเข้าให้กระดาษแผ่นเดียว ขึ้นเงินบ่ได้อีก)
§  ชาวนาอีสานเมื่อทำนาเสร็จก็มีพิธีสู่ขวัญข้าว การสู่ขวัญข้าวเป็นพิธีการสอนชาวนาให้เฉลียวฉลาด เป็นการประกาศให้ชาวโลกเห็นว่า ชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของโลก ชาวโลกควรจะคิดถึงบุญคุณชาวนา เม็ดข้าวที่ได้มาแต่ละเมล็ดนั้น มาจากหยาดเหงื่ออันเข้มแข็ง หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ใช้เวลาเกือบหกเดือน ทุกคนจึงควรเห็นคุณของชาวนาและเมล็ดข้าว บทสูตรขวัญข้าวมีว่าดังนี้...
§  รี ศรี วันนี้แม่นวันดี วันเศรษฐีอมุตโชค วันชาวโลกชื่นชม วันพระบรมกุกุสันโธทนะ ลงมาเกิด ลงมาเปิดโลกา พระสัตถาผู้ก่อ ตั้งแต่หน่ออรหันต์ มารวมกันอยู่ในโลก จั่งเป็นโชคปฐพี ท่านเศรษฐีปลูกข้าว เอาใส่เล้าในฉาง ยังมีนางหน่อนารถ ผู้ฉลาดเมืองคน ชื่อว่าสาวหน้ามนคิ้วก่อง คิงกลมค่องนางแมน เป็นลูกแถนลงป่อน มาอยู่บ่อนพาราณสี เป็นนารีผุดผาด อยู่ปราสาทสามหลัง ไผได้ฟังชมชื่น ดีล้นหลื่นคนทั้งหลาย ปานเดือนหงายผิวผ่อง คิงกะค่องงามงอน ตาออนซอนนวย นาด ผิวพรรณคาดเครื่องไพฑูรย์ คนมีบุญมาสู่ มีนามอยู่ว่าโภสพ คอคางจบคิ่วก่อง แขนขาค่อง ปานมะที สาวเศรษฐีหยาดย้อย คิดค้อยๆ อยู่ในใจ ไผสิไปนำเอาข้าว พระพ่อเจ้าโกรธา ตามไปหา บ่พ้อ จั่งให้น้อยหน่อนารี ไปขอพรพระฤาษีอยู่ในถ้ำ จั่งลุก้ามในผา จั่งได้มาเมล็ดข้าว จั่งได้เว้าต่อ กันมา มีผญาปัญญาล้ำเลิศ คนจั่งเกิดมาหลาย คนบ่ตายเพราะมีข้าว จั่งได้เป็นพระพุทะเจ้ากุกุ เพราะบุญชูถวายบาท จั่งฉลาดคนเฮา
§  ว่ามาเยอขวัญเอย ทั้งข้าวจ้าวและข้าวเหนียว เจ้าอย่าเหลียวไปทางอื่น เจ้าอย่าตื่นไปไส อย่าไปไกลจากต่า เจ้าอย่าว่าคนมายี เจ้าอย่าว่าคนมาสีมาตำมาเหยียบ เจ้าอย่าเปรียบเป็นดิน ดอน คนออนซอนบ่อึดอยาก คนเหลือหลากในโลกา เชิญเจ้ามาอยู่ในเล้า คนกินเจ้าโภชนา แม่น มีผลากะบ่แล้ว แม่นมีแก้วกะบ่เอา คนมาเซาช้องส่อ ออนซอนหน่อโภชนัง กินอี่หยังบ่ท่อเจ้า บ่ท่อ ข้าวขาวๆ ใหญ่เป็นสาวและเป็นบ่าว เขาบอกกล่าวกันมา ข้าวอยู่นาเอาใส่เล้า เขาเอาเจ้ามานอน เฮือน เป็นปีเดือนได้เลี้ยงลูก เอาข้าวปลูกฮอดข้าวปัดลาน เป็นข้าวสารอยู่ในต่า เอามาหม่านึ่งหวด ลายสอง หอมฮองๆ หื่นเฮ้า จั่งเอาเจ้าเลี้ยงพระเถรา จั่งเอามาทำบุญตักบาตร บ่ได้ขาดพระตะถา คะตา มีปัญญาคนได้กินข้าว คุณของเจ้าเหลือแผ่นสุธา เหลือธาราสมุทรแม่น้ำ
§  คนทุกก้ำจึงแข็งแรง คนมีแฮงกินข้าวท่านบอก ของอยู่นอกบ่แม่นคนเฮา เขากะเอาหมู หมาเป็ดไก่ เขาเอาใส่ฮำแกลบโฮยดิน สัตว์เก็บกินตามมีตามเกิด แสนประเสริฐกว่าสิ่งทั้งปวง ยาม เป็นฮวงเขาเก็บเขาเกี่ยว ยามเจ้าเหี่ยวเป็นเฟืองใบเหลือง เอามาเถียงมัดไว้บ่แตก บ่ได้แจกไปใส มาใส คือดั่งใจมุงเฮือนกะได้ เถียงหลังใหญ่มุงเฟืองเกินหนา อยู่เถียงนาอาศัยบ่ขาด บ่ประมาท คุณโภชะนัง เอามาวางใส่เล้าเต็มอั่ง จั่งได้นั่งว่ามุมะมูลมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้านอนอยู่ท่ง นำเขียดจานา ขวัญบ่มาไปนำเขียดโม้ อย่าอ้าวโอ่นำหมู่ปูทาม ว่ามาเยอขวัญเอย นางข้าวจ้าวทั้ง นางข้าวเหนียว ก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้ ต้นเขียวๆ ข้าวก่ำต้นบ่ต่ำข้าวดอ เกินงามนอนั้นเป็นข้าวงวง ช้าง ดำสับหว่างนั้นแม่นข้าวมันปู งามปูลูนั้นแม่นข้าวใหญ่ เขาดำใส่นาทาม เกินเผิ่นงามดำเลาะ ฮ่อง ฮวงเผิ่นก่องเป็นพวง
§  ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้านอนอยู่ท่งนำฮู นอนนำปูทั้งจี่หล่อ เชิญน้อยหน่อมาอยู่ฉาง เชิญคำนางมาอยู่เล้า เจ้าอย่าเศร้าเสียศรี ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าตกอยู่น้ำในตม ขวัญเจ้าชม อยู่ไฮ่ ขวัญข้าวใหญ่ข้าวปลาเข็ง อย่าไปเส็งนำหมู่ อย่าไปอยู่นำปลา อย่าอยู่นาแดดฮ้อน ให้เจ้า ย้อนโงมา ให้เจ้าหวิดปากปลา ให้เจ้ามาไวว่อง อย่าอยู่ฮ่องนำทาม ให้เจ้างามมาอยู่ มารวมหมู่ นำกัน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางก้ำดินดำน้ำก่ำ ขวัญเจ้านำหมู่ม้า กุลาพุ้นให้ต่าวมา ว่า มาเยอขวัญเอย นกกะจิบเขาสิตอด พวกนกขอดสิคาบหนี ถึงเดือนปีจั่งออกจากเล้า สิเอาเจ้าหว่าน นาทาม เจ้าสิงามกว่าเก่า เอาไปไว้นาเหล่าดงดอน คนออนซอนต้นก่อง เอาไปใส่นาฮ่องปลายทาง เอาเจ้ามาเป็นข้าวเปลือก ให้เจ้าได้เลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน ได้กินทานสืบต่อ เป็นน้อยหน่อศาสนา ให้ เจ้ามามื้อนี้วันนี้ มาอยู่ในฉางมาอยู่ทางเล้าใหญ่ เบิ่งคางไก่สูตรแล้วงามหลาย คางไก่หวายโตลาย โค้งโน้ง คางมันก่งคือเกี่ยวเหล็กแหลม ตาเฮาแนมฝนดีปีหน้า หมอสูตรว่าพราหมณ์สวดขวัญมา เป็นราคาข้าวเหนียวข้าวจ้าว จั่งบอก กล่าว อุอะ มูล มา โภชะนา พิชาคะมัง สาธุ
§  เสกน้ำประพรมข้าวหลังสู่ขวัญ

§  อมแม่เจ้าโภสพผู้เป็นขวัญข้าว เก็บมาใส่เล้าใส่เยีย ลูกหลานกินทานเสียบ่ขาด บ่ได้ ประมาทคุณแม่โภสพ เผิ่นเสกมนต์เรียกข้าว เผิ่นเอิ้นแม่เจ้าไปอยู่เล้าอยู่เยีย ให้แม่เจ้าอุดหูไว้ อย่าฟังเสียง อย่าได้ฟังสำเนียงของโจรลักข้าว ให้แม่เจ้าขับไล่มันหนี ขอให้ข้าวเฮาอยู่สวัสดี กินอย่าได้บก จกบ่ให้ลง ด้วยบาทพระคาถาว่า มา ขะโย มา วะโย สัพพะกาลัง นะขียันติ สาธุ 

พพื้นที่โฆสณาว่าง.....

  สู่ขวัญงัวควาย



§  สู่ขวัญงัวควาย
§  การทำนาสมัยโบราณนั้นใช้แรงงานจากวัวควาย ในภาคอีสานนิยมใช้ควายมากกว่าวัวในการคราดไถ ส่วนวัวนิยมใช้ในการเทียมเกวียน วัวควายจึงเป็นเหมือนเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากของชาวอีสาน ชาวนาอีสานใช้ควายในการลากไถ ไม่ว่าจะตัวใหญ่ผอมหรือพี เมื่อจับเข้าเทียมไถแล้ว ขอให้ลากไถไป ไปได้ไวเท่าไรยิ่งดี หากมันหยุดยืนกัดกินหญ้า เจ้าของจะตี คิดดูแล้วน่าสมเพทเวทนา บางตัวกัดกินใบข้าวที่เกิดจากแรงงานของมัน เจ้าของตีจนเขาหักก็มี เจ้าของน่าจะคิดว่า "มึงก็อยากเหมือนกู กินซะใบของมัน กูจะกินเม็ด" น่าจะพูดให้ควายฟังอย่างนี้
§  มีข้อที่น่าสังเกตุอยู่อย่างหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องควาย ควายรักภาคอีสานและคนอีสาน ถึงจะลำบากตรากตรำก็เฉพาะเวลาทำไร่ไถนา เมื่อเสร็จหน้านาแล้วมันจะหากินตามประสาของมัน ชาวอีสานเป็นพ่อค้าควาย หมดฤดูทำนาก็ต้อนควายไปขายที่ภาคกลาง (ตำนาน "นายฮ้อยทมิฬ" นั่นเอง) ก่อนจะออกเดินทาง พ่อค้าก็จะหาหญ้า หาน้ำมาให้ควายกินอย่างอุดมสมบูรณ์ และจัดการสู่ขวัญให้ แทนที่ควายจะดีใจมันกลับน้ำตาไหลคลอเบ้าตา ต้อนไปมันก็ไม่อยากจะไป แสดงว่ามันรักและคิดถึงดินแดนถิ่นอีสานบ้านเกิด ที่มันเป็นเช่นนั้นมันคงจะได้ยินระแคะระคายว่าดินแดนที่มันจะไปนั้น มันจะประสบทุกข์ทรมานแสนเข็ญ (คุณพ่อปรีชา พิณทอง เล่าให้ฟัง)
§  การที่คนอีสานทำพิธีสู่ขวัญควายเป็นการแสดงให้เห็นว่า ควายเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีบุญคุณมาก ข้าวทุกเม็ดที่เราได้กินเกิดจากกำลังของควาย และอีกอย่างหนึ่ง เป็นการประกาศให้ชาวโลกรับรู้ว่า ควายมีประโยชน์ต่อคนและชาวโลก ไม่สมควรที่ชาวโลกจะตั้งโรงงานฆ่ามัน น่าจะทนุถนอมมันไว้ใช้งานต่อไปนั่นเอง บทสูตรขวัญงัวควายมีดังนี้...
§  รี ศรี มื้อนี้เป็นวันดี วันเศรษฐี วันขัติยะราช มีอำนาจพลังเหลือหลาย มีความหมาย เหลือหลาก บ่ทุกข์ยากอันใด สมดังใจมวลหมู่ จั่งได้สู่เอาขวัญ จั่งได้ชวนทั้งทวยเทพเมืองแมน พระยาแถนผู้ปั้นหล่อ ผู้เค้าก่อไถนา จั่งเอามายังมหิงสาตัวอาจ ตัวสามารถมีพลัง เอามายังเคหา มาอยู่นาบักเขาแก้ว ให้ชื่อแล้วว่าบักคูณ เอามาหนุนเกื้อก่อ มาเป็นหน่อทองคำ ไถนาดำแลนา หว่าน ตัวเคยผ่านไถนา เป็นพระยาฤทธิ์เดช อยู่ในเขตปฐพี เป็นควายดีมีอำนาจ งามองอาจกว่า มหิงสา จั่งเอามาผูกเชือก จั่งได้เลือกเอามา อยู่ชายคาหลังใหญ่ โตมันไล่พาลี โตมันตีสังครีบ โตมันถีบทรพี มันบ่หนีบักเขาแก้ว เอามาแล้วทรัพย์มาโฮม เสียงทมๆ เขาโล้งโค้ง ปล่อยลงท่งอยู่ กลางนา งามแต่หางฮอดส้นหน่อง เกินงานค่องเจ้ามหิงสา ยามไถนาบ่มีขาด ยามเฮาคลาดมีกำลัง บ่ถอยหลังตกต่ำ ฮอดยามค่ำขี่เข้าไปเฮือน ไถเป็นเดือนกะบ่จ่อย เก่งบ่ค่อยกาสร
§  สองเขางอนงามยิ่ง แขวนกระดิ่งอยู่ในคอ ฟังเสียงขอดังสนั่น เกินกล้ากลั่นอ้ายทุยทอง สีบ่หมองเหลืองหล่า ไล่ลงท่าไปนอนซำ เจ้าของนำดึงเชือก นอนดมเกลือกเซามีแฮง บึกบึนแข็ง องอาจ พอปานนาคราชดึงเขาพระสุเมรุ ผู้ใด๋เห็นกะอยากได้ โตเจ้าใหญ่เพียงตา ยาวเป็นวาหลัง บ่แอ่น ไถนาแก่นแห่งข้าวงาม ไถนาทามและนาโคก เจ้าถึกโสกกาสร คนออนซอนอย่างอาดๆ เจ้าฉลาดไถนาดี บ่เคยตีไปตามห่อง ไปตามป่องบ่สับสน พอปานคนเจ้าองอาจ เอาใส่คราดบ่มี ถอย ย่างตามฮอยฮู้ฮ่อม ไปหล่อมๆ ทำนา มีปูปลามาอยู่ดีกว่าหมู่นาทาม ข้าวกะงามแตกหน่อ นามูลพ่อต้นข้าวสีเขียว เฮ็ดข้าวเหนียวและข้าวจ้าว พันลาวอ้าวฮวงดียามเฮาตีฟาดตุ้ม ข้าวขึ้น กุ้มเต็มลาน เฮ็ดนาหมานคูณค้ำ พอเฒ่าจ้ำว่าบ่ขาย ราคาหลายเป็นหมื่น เจ้าดีหลื่นมาอยู่นำ ปานทองคำฮักห่อ
§  ลูกของพ่อกาสร ตาออนซอนเจ้าไถคราด เจ้าฉลาดพอปานคน เจ้าอดทนเหลือหลาก หญ้าเต็มปากนำคันนา ไปเอามาให้เจ้าอยู่ เอามาสู่เต็มกะทอ กินให้พออย่าอึดหยาก มีหลายหลาก ในนามหิงสา ลากแก่ข้าวกะแผ่เป็นฮวง ท่วมหลังกวางและช้างม้า อยู่นาท่าข้าวกะงาม อยู่นาทาม ข้าวแตกหน่อ ปานคนก่อแบ่งเอา เขียวปานเทาบ่อเหลืองหล่า ได้พันต่าแสนกระบุง กินเต็มพุงบ่ อึดอยาก บ่ทุกข์ยากอันใด๋ ปลดจากไถเจ้าพักผ่อน หยุดก่อนหมดเวลา เจ้าไถนาเหนือและนาใต้ ทั้งนาใกล้และนาไกล อย่าไปใสให้เจ้าอยู่ ไปนำหมู่หาเล็ม
§  ว่ามาเยอขวัญเอย ถึงยามค่ำให้เจ้าเข้ามาเฮือน เดือนดำตกมืดซ้าวล้าว ให้เจ้าฟ้าวมา เฮือนหา เข้าชายคาอยู่ในคอก ฟังข่อยบอกจื่อจำเสียง ฟังสำเนียงให้เจ้าแหล่น ให้เจ้าแก่นนอน เฮือน อย่าได้เหมือนกะฮอก ผู้ใด๋บอกให้จำเอา อย่ามัวเมานำโตแม่ อย่าไปแว่สวนมอน อย่าไปซอน สวนเผิ่น เจ้าอย่าเปิ่นหลงทาง ว่ามาเยอขวัญเอย ให้มาสามื้อนี้วันนี้ มาอยู่ที่ตะหล่างเฮือนสูง เขาบ่ จูงเจ้าไปฆ่า เขาบ่ด่าเจ้าโตดี เขาบ่ตีเอาเชือกถาบ เขาบ่หาบมังสัง เขาบ่ซังกดขี่ ให้เจ้ามาอยู่ที่เคย นอน บ่มีหมอนให้เอาโล้งโค้ง คือกะด้งมาหมูน ว่ามาเยอขวัญเอย ให้เจ้าคูณเจ้าค้ำ ยามมืดค่ำให้ โงมา ยามไปนาให้เจ้าต่าว อย่ากินข่าวเชือกไถ อย่าจัญไรชนฮั้ว อย่าไปกั้วสวนแตง เจ้าของฮักฮ่อ ลูกของพ่อคูณเฮือน
§  ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปวังน้ำ นอนตมบ่อนมันหล่ม ขวัญเจ้าไปเที่ยวพ้อกาสร โตแม่ เจ้าอย่าแวส่องเล่นเห็นแล้วให้ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย มาตั้งขวัญเขาพร้อมขวัญหูทั้งคู่ จตุบาทอย่าได้ช้าให้มาพร้อมพร่ำกัน ว่ามาเยอขวัญเอย นังคัลพั่วฟอยหางกวัดแกว่ง ให้เจ้ามาไล่ ฮิ้นยุงพร้อมเหลือบนำ ขวัญตาก้ำทั้งสองมองอยู่ ขวัญปากคิ้วหัวพ้อมสู่แนว มาฮอดแล้วหลักเก่า เสาเฮือน นอนสีคีงฮ่มเย็นหายฮ้อน อย่าไปเชยซมซ้อนหนีไปนอนเฮือนเผิ่น ให้เจ้ามาตะหล่าง กว้างๆ เฮาพี้อย่าสิหนี เอหิ มะหิส สะกะฆะเร ปะติฏฐาหิ สาธุ
§  คำผูกเขาควาย

§  ศรี สรี ฝ้ายเส้นนี้แม่นฝ้ายดี ฝ้ายอันมีฤทธี ส่งมาแต่เมืองฟ้า พระนารายณ์เป็นเจ้าส่งลง มา ให้ผูกเขามหิงสาตัวประเสริฐ เพื่อให้เกิดค้ำคูณ ขวัญผิดที่ก็ให้หาย ขวัญจัญไรก็ให้จืด มีแต่ที่ ประเสริฐทั่วตัวควาย โรคปากเปื่อยอย่าให้มี โรคบ่ดีอย่าให้พ้อ ให้เจ้าเป็นตั้งต่อคูณเฮือน ทุกปี เดือนอย่าให้เจ้าของอึดอยาก ให้ได้ดังคำมักคำปรารถนา ว่า อุ อะ มุ มะ มุนมา มะหามูลมัง สวาหุมฯ


พพื้นที่โฆสนาว่าง...
 

เพจ Jiraporn Tongkampra

เพจ Jiraporn Tongkampra
แบ่งปันสื่อ ไอเดียสอนลูก ใบงาน ไฟล์แบบฝึกหัด เพื่อการเรียนรู้ของลูกน้อย ของเล่นเสริมพัฒนาการ

บ้านนารายณ์ซับสกรีน

บ้านนารายณ์ซับสกรีน
รับออกแบบยันต์ต่างๆ ปั้มลงผ้ายันต์และเสื้อยันต์ รวมทั้งเสื้อใส่เล่น ในราคาถูก

ช่องยูทูปครูน้อย

ช่องยูทูปครูน้อย
ติดตามคลิบวีดีโอที่แบ่งปันวิทยาทานและธรรมทานได้อีกช่องทาง