วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2559
แหล่งประจุไฟฟ้า
แหล่งประจุไฟฟ้า จะสามารถถ่ายเทกำลังไฟแก่แหล่งรับพลังงานต่างๆได้ ก็ต้องทำตนเองให้มีประจุกำลังไฟฟ้าไว้มากพอ ต่อเมื่อมีแหล่งพลังงานอื่นๆมาเชื่อมต่ออย่างถูกต้อง กระแสพลังไฟฟ้าย่อมส่งผ่านได้เองโดยอัตโนมัติ อุปมาฉะนี้แม้การแผ่คลื่นพลังจิตก็เช่นเดียวกัน ผู้เป็นแหล่งพลังงานทางจิต ก็ต้องกระทำจิตตนให้สมควรแก่เหตุ หมายความว่า ผู้จะแผ่พลังให้แก่ผู้อื่นเป็นจำนวนมากและต่างสถานที่ ก็ต้องฝึกจิตได้เป็นฐานกำลังที่มั่นคง ต่อเมื่อจะแผ่โดยไม่ได้เจาะจงผู้ใด ก็เพียงแค่ตั่งจิตไว้ฐานสำคัญฐานใดฐานหนึ่ง ตามแต่เจตนาจะแผ่ในลักษณะใด ด้วยการอธิฐานจิตแล้ววางจิตใว้ที่ฐานใดฐานหนึ่งให้มั่นคง ทำความรู้สึกเหมือนประหนึ่งว่าตัวเราเองเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานใหญ่ โดยอาศัยการกล่าวอ้างเอาคุณพระรัตนตรัย คุณบิดามารดา ครูอาจารย์ เป็นบารมีที่พึ่งที่ระลึกสำคัญของจิตใจ และพร้อมจะเผื่อแผ่แก่บุคคลอื่นด้วยความปรารถนาดี ต่อเมื่อผู้อื่นเพ่งจิตมาได้อย่างถูกต้องและสมแก่เหตุที่เขาไห้สร้างไว้ ก็จะสามารถรับเอาคลื่นพลังจิตที่เราตั่งไว้ดีแล้วได้มากน้อยตามกำลังจิตของผู้รับเอง ฉนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้รับแรงครูนั้นจะเกิดผลได้มากน้อยต่างกัน ก็สำคัญที่ผู้รับเองเป็นเหตุ ผู้มีใจศรัทธาและเชื่อมั่นอย่างจริงใจ ย่อมทำให้เกิดสมาธิจิตตั่งมั่นระลึกถึงคุณผู้อุปการะได้ด้วยจิตที่นอบน้อม ก็จะสงผลให้เกิดความสมปรารถนาได้อย่างสมบูรณ์
"กระแสไฟมีหน้าที่วิ่งผ่านสื่อนำที่ดี กระแสจิตก็มีหน้าที่วิ่งผ่านสื่อนำที่ดีเช่นกัน ฉนั้นท่านควรฝึกจิตให้เป็นสื่อที่ดีไว้เถิด" สาธุๆๆ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น