เผยแพร่องค์ความรู้เกียวแก่เลขยันต์อักขระเป็นวิทยาทาน และให้เช่าบูชาเครื่องราง

ครูน้อย นารายณ์ พลิกแผ่นดิน. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่๓






ประสิทธิ์ ปาปะแพ
4 พฤศจิกายน 2014 · 
ตำราต่างๆจะเรียกว่า วิชชาคือความรู้ ได้ ต้องอาศัยการมีธรรมะประจำใจ หากไม่มีแล้วตำราที่ใช้ก็จะเป็นอวิชชาไป เพราะอวิชชาหมายถึงความไม่รู้ ในบาปบุญคุญโทษประโยชน์มิใช่ประโยชน์



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
6 พฤศจิกายน 2014 · 
การปฏิบัติธรรมเจริญภาวนานั้น เมื่อกำลังนั่งภาวนาอยู่อาจมีเรื่องราวหรือภาพต่างๆเกิดขึ้นในจิต ทำความรำคาญให้ผู้ต้องการความสงบ การที่จะแก้สภาวะต่างๆเหล่านี่คือใช้สติระลึกรู้เท่าทันความคิด อย่าไปยินดียินร้ายกับความคิดต่างๆ เป็นเรื่องปกติที่จิตมันต้องคิดเป็นธรรมดา เราก็มีหน้าที่รู้ว่ามันคิดอะไรก็พอ ฝึกรู้เท่าทันมันก่อน มันคิดไปเรื่องใหนรู้ทันแล้วกลับมาที่การทำสมาธิ คิดไปรู้ทันแล้วมาภาวนาเหมือนเดิม ทำอย่างนี้ไปเรื่อยเมื่อจิตคิดไปเรื่องอื่น มันจะเท่าทันความคิด เอง การทำสมาธิไม่ใช่ไปห้ามความคิด แต่เป็นการฝึกให้รู้เท่าทันความคิด อาศัยตัวสติเป็นเครื่องผูกใจให้อยู่ ส่วนสมาธิคือความตั่งใจเราทำอยู่แล้วมันเริ่มตั่งเเต่เราเริ่มนั่ง พระพุทธเจ้าจึงเปรียบจิตเหมือนวัว สติเหมือนเชือก สมาธิคือหลัก วัวมันจะเดินจะกินหญ้ามันก็เดินและกินอยู่ในขอบเขตแค่เชือกมัดกับหลักไว้ ไม่ได้หากินเรื่อยเปื่อย จิตก็เหมือนกันมันยังต้องคิดต้องเสพเอาอารมณ์ภายนอกมาคิดเป็นปกติ แต่เรามีสมาธิและสติปัญญาคอยดูแล ไม่ให้มันตะเลิดไปโดยขาดการยับยั้ง ฝึกรู้ความคิดตนตลอดทั้งในยามนั่งสมาธิและเวลาปกติ เท่านี้ก็คือการปฏิบัติแล้ว กินข้าวก็ให้กินด้วยสติ มีความตั่งใจกินคือสมาธิเป็นหลัก ทำสมาธิอย่าไปเคร่งเคลียดเอาแบบกลางๆ แต่ทำอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเอาทุกลมหายใจที่มีอยู่เป็นการปฏิบัติได้ ชีวิตนี้เราก็ไม่ต่ำกว่าคนแล้ว...



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
3 ธันวาคม 2013 · 
ความอัศจรรย์เมื่อใจอัศจรรย์
บทความนี้จะกล่าวถึงเรื่องของใจหรือจิตอันเป็นกุญแจสำคัญในการใช้พระคาถาให้เกิดผลสำเร็จ การท่องบ่นคาถานั้นเมื่อผู้ภาวนากำลังภาวนานั้นจำเป็นที่จะต้องตั้งจิตให้เป็นสมาธิ ผู้ที่มีสมาธิจิตแรงกล้ามากพระคาถาที่ภาวนาท่องบ่นนั้นก็จะเกิดอิทธิปาฏิหาริย์มาก ผู้มีสมาธิน้อยผลก็เกิดน้อยหรือไม่เกิดผลสำฤิทธิ์เลยก็มี ฉนั้นการนั่งสมาธิฝึกจิตให้ตั้งมั่นนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆในการเล่าเรียนพระคาถาต่างๆ ความสำคัญที่ลองลงมาคือการไหว้ครู ที่เรียกว่าขันครูที่ครูบาอาจารย์ได้กำหนดไว้ ผู้เรียนจะต้องได้แต่งขันแล้วนำไปไหว้ครู เพื่อครูท่านจะได้กล่าวประสิทธิ์ประสาทวิชชานั้นๆให้ โดยต้องกล่าวอ้างถึงครูแก่เก่าก่อนจนถึงปัจจุบันให้มาเป็นสักขีพะยานในการประกอบพิธีกรรม เพื่อการได้รับอนุญาติในการใช้พระคาถาบทนั้นๆให้เกิดความศักดิ์สิทธ์ความเข้มขลัง หากเราไม่ได้รับอนุญาติด้วยการไหว้ครูแล้ว ต่อให้เราได้คาถามาก็ใช้ไม่เกิดผลหรือจะเกิดผลบ่างก็ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้าและสมาธิที่มีเองโดยธรรมชาติแห่งจิต ความสำคัญอีกอย่างคือข้อห้ามที่เราจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเมื่อได้ยกครูไหว้ครูมาแล้ว บางอาจารย์ท่านก็อาจบอกว่าไม่มีข้อห้ามอะไร แต่ที่แท้แล้วการไม่ประมาทครูลบหลู่ดูหมินครูตน จะทำให้วิชาที่เรียนเข่มขลังไม่เสื่อม แต่ถ้าจิตคิดลบหลูปรามาทท่านแล้วคาถาที่เรียนมาจะค่อยๆเสื่อมถอยไป การถือของจึงจำเป็นท่านห้ามอะไรเราต้องปฏิบัติให้ได้เพราะนั้นมันหมายถึงเรารับสัจจะวาจาจากท่าน ถ้าทำไม่ได้มันก็ผิดสัจจะวาจา และผู้ที่จะรักษาได้ไม่เสื่อมคลายคือผู้ที่มีความเชื้อศรัทธาด้วยใจจริง ไม่ใช่ความอยากรู้อยากลอง และความอยากรู้อยากลองมันจะทำให้เราทำการไม่สำเร็จจนถึงของเข้าตัว ของเข้าตัวนั้นก็มีอาการหลายประการ อย่างเบาหน่อยก็ปวดหัวตัวร้อนไม่ทราพสาเหตุ หรือควบคุมสติไม่ค่อยได้ เรียกว่าโกรธง่ายหงุดหงิดง่าย จนถึงเหม่อลอยไม่ค่อยมีสติ อย่างหนักเป็นบ้า เป็นปอบ ตายในที่สุด และก็แล้วแต่คาถาที่เรียนนั้นจะเป็นสายดำหรือสายฤาษีสายพุทธคุณ ฉนั้นผู้ทีจะร่ำเรียนคาถาหรือสักยันต์ก็ดีจำเป็นที่จะต้องรู้และเข้าใจในความสำคัญในการปฏิบัติอย่าถูกต้อง เมื่อเรารู้และเข้าใจดีแล้วการที่เราจะลงมือทำมันก็เกิดข้อผิดพลาดได้น้อย ส่วนคนที่ของขึ้นเพราะทำผิดครูบ่อยๆอย่าคิดว่าดี มีบางคนสักแล้วท่านห้ามกินเหล้าเดนก็ดีหรืออย่างอื่น เมื่อทำผิดของจะออกอาการฟ้องที่เราเรียกของขึ้นผู้สักเสือก็จะแสดงท่าทางเป็นเสือ อันนี้ไม่ใช่ผลดี เพราะของที่เรากระทำมามันจะเสื่อมจนสูญไปในที่สุดเมื่อเป็นบ่อยๆ แต่ถ้าขึ้นเพราะถูกปลุกหรืออยู่ในพิธีกรรมอันนี้ไม่เป็นไร การเรียนสิ่งอัศจรรย์ใจเหล่านี้อย่าลืมข้อหนึ่งว่าเรามีไว้คุ้มครองตน หากปฏิบัติตามครูบอกได้อย่างเคร่งครัดก็คุ้มครองเราได้เต็มที่ ถ้าทำผิดต่อคำเตือนครูมันจะเข้าตัวในที่สุด ท่านบอกเรียนแล้วอย่าไปทำร้ายคนอื่นหรือเป็นนักเลงตีคนโน้นทีมีเรื่องประจำสักวันมันก็พลาด ครูไม่ได้ทิ้งเราแต่เรานั้นแหละทิ้งครู แต่ถ้าเราทำได้ปฏิบัติได้ บางคนเก่งกว่าครูผู้สอนก็มีมากให้เห็น ครูไม่มีชื่อแต่ศิษย์เด่นดังก็มี ฉนั้นก่อนที่จะอัศจรรย์ใจ เราก็ต้องฝึกให้ใจตนอัศจรรย์เสียก่อน เพราะสิ่งเหล่านี้มันเชื่อด้วยตาเปล่าไม่ได้ ต่อให้ยิงไม่เข้าฟันไม่เข้าต่อหน้าคนอื่น จะให้คนเชื้อทั้งหมดก็ไม่ได้ มันต้องพิสูจณ์ด้วยการลงมือทำ และทำอย่างจริงจัง สิ่งที่เรารักมันจะไม่ใช่ของยากแต่มันจะเป็นสิ่งท้าทายให้เราทำให้เกิดผลสำเร็จ...การทำสมาธิก็ให้ฝึกอย่างน้อยที่สุด10นาทีทุกวัน จะด้วยวิธีใดองค์กรรมฐานใดก็ได้ ใครถนัดพุทโธก็ใช้พุทโธ หรือดูลมหายใจเข้าออกเฉยๆก็ได้ จิตจะสงบหรือไม่ก็ตามเราก็ต้องฝึกทำ 10นาที่ พอแล้วชำนานแล้วก็อธิฐานเพิ่มให้นานต่อไป สถานที่จะเสียงดังหรือเงียบไม่สำคัญ การทำสมาธิทำได้ตลอดและทุกโอกาส อย่ารอโอกาส เราต้องสร้างโอกาสให้กับตนเอง เพราะโอกาสมันเป็นการกระทำของเรา ทำเมื่อไหร่มีโอกาสเมื่อนั้น เพราะการใช้คาถาในบางโอกาสเราก็ต้องท่องในขณะคับขันจวนตัวเช่นตอนมีเรื่อง มีสติก็ต้องตั่งจิตเป็นสมาธิแล้วภาวนาให้คาถาคุ้มครองตน อย่างนี้เป็นต้น ใครสักมาก็ต้องนึกถึงรอยสักและครูอาจารย์ของตนให้มาคุ้มครอง ส่วนการใช้เคล็ดลับในการนำสมาธิมาใช้กับการภาวนาคาถาได้อย่างถูกต้องนั้นจะอธิบายในบทความต่อไป........!


ประสิทธิ์ ปาปะแพ
8 พฤศจิกายน 2014 · 
หากคำติเตียนของครูเป็นเหมือนเข็มทิ่มแทงใจศิษย์ เขาจะไม่มีวันเจริญได้เลย
หากวันใดเราพิจจารณาเห็นแล้วว่าคำติของครูนั้นท่านได้ชี้ขุมทรัพย์ให้แล้วเมื่อนั้นแหละ เขาจะเจริญในวิชชา ทุกวันนี้ที่ผมเล่าเรียนตำราจากครูผมก็ไม่ได้เจริญเพราะคำชมท่าน แต่ผมเจริญเพราะคำติเตียนของท่านเหล่านั้น เพราะมันทำให้เรามองเห็นความด่อยและข้อบกพร่องของตนและได้รู้แก้ไข...



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
10 พฤศจิกายน 2014 · 
ถ้าใครทำ ให้โกรธ อย่าโทษเขา
ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
ถึงแม้นว่า เรื่องนั้น จะมาแรง
ถ้าใจแข็ง เป็นอัน ชนะมัน
..เคาะสนิมจิต ด้วยบทกลอน ...พระอาจารย์ ธิตะเปโม พูลเพิ่ม



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
14 พฤศจิกายน 2014 · 
ถ้าเราตั่งใจจริงลงมือกระทำการต่างๆ และรักษาความตั่งใจจริงนั้นไว้ได้จนงานนั้นๆสำเร็จ รู้ไว้เถิดนั้นแหละสมาธิ คือความตั่งใจมั่น นั่นเอง เรื่องการใช้คาถาก็อาศัยสมาธิอย่างนี้แหละที่ทำให้เกิดผลอัศจรรย์ได้ ไม่มีอะไรซับซ้อน ทุกอย่างถ้าคิดว่าง่ายและทำได้เมื่อเริ่มลงมือทำ เราก็ประสบความสำเร็จไปแล้วกว่าครึ่ง...



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
19 พฤศจิกายน 2014 · 
ฉันไม่ได้เก่ง. ฉันไม่ได้กล้าอะไร. ฉันมีวิชชาเลี้ยงตัวได้เพราะฉันเคารพครูฉัน. ครูทุกท่านช้วยฉัน. ถ้าไม่ได้ท่านเหล่านั้น. ก็คงไม่ได้มีความรู้มาบอกต่อเธอทั้งหลาย. และถ้าไม่ได้ความศรัทธาจากเธอทั้งหลาย. ฉันก็ไม่ได้เป็นครูใคร. คุณของครู น้ำใจของศิษย์ ฉันนั้นสำนึกเสมอ. สาธุๆๆ



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
29 พฤศจิกายน 2014 · 
หลวงพ่อพุทธทาส...
ตนเตือนตน ของตน ให้พ้นผิด
ตนเตือนจิต ตนได้ ใครจะเหมือน
ตนเตือนตน ไม่ได้ ใครจะเตือน
จงเตือนตน ของตน ให้พ้นภัย
...ครูที่เราละเลยไม่ได้เลยคือครูในใจตนนั้นแหละที่สอนตนได้ดีที่สุด ส่วนครูภายนอกท่านได้แค่แนะนำพร่ำสอนเท่านั้นเอง ครูท่านบอกรักษาศีลนะ ท่านก็พูดได้แค่นั้น ส่วนคนรักษาจริงๆมันเรา..



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
3 ธันวาคม 2014 · 
มัวหลงคิด โทษดินฟ้า ว่าลิิขิต ให้ชีวิต เป็นไป อยู่อย่างนั้น
โทษสวรรค โทษเทวดา ว่าลงทัณ ปัดความผิด ของตนนั้น อยู่ร่ำไป
ตนคนคิด คนทำ ให้จำไว้ ไม่มีใคร มาบันดาล มาขีดให้
สุขตนทำ ทุกข์ตนทำ ไม่ใช่ใคร เมื่อหลงไหล ก็หลงทำ ผลรับเอง
เมื่อคิดดี ทำดี ผลคือสุข ที่เป็นทุกข์ เพราะคิดชั่ว ทำมัวหมอง
รู้อย่างนี้ ก็ฝึกไว้ ที่ใจคลอง กายเป็นรอง ใจเป็นหนึ่ง ถึงความจริง
ฝึกให้รู้ ความจริง กายใจนี้ รู้ว่ามี ความไม่จริง เป็นสิ่งคู่
เท็จกับจริง จริงกับเท็จ ฝึกให้รู้ แล้วจะอยู่ รู้หน้าที่ อย่างมีธรรม....



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
4 ธันวาคม 2014 · 
เราทุกคนที่เกิดมา ต่างก็บ่ายหน้าสู่ความตาย เหมือนโคที่เดินไปสู่ที่ฆ่าฉนั้น ทุกก้าวที่เดินคือการก้าวเข้าไปสู่ความตาย แล้วเรามีชีวิตอยู่...อย่างไร เพื่ออะไร...ลองถามตัวเองดู



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
4 ธันวาคม 2014 · 
บวชเพื่ออะไร...
ยังมีคนจำนวนไม่น้อยทั้งที่เคยบวชและยังไม่เคยบวช ที่ยังไม่เข้าใจว่าบวชเพื่ออะไร ได้อะไร บางท่านจึงไม่นึกถึงความสำคัญและเห็นการบวชเป็นเรื่องน่าเบื่อยุ่งยาก จนไม่อยากบวช แม้บวชก็ด้วยทำตามๆกันตามประเภณีเท่านั้น จึงเห็นได้ว่าแม้คนที่บวชแล้วสึกขาลาเพศออกมาก็ยังไม่รู้เลยว่าตนเองได้อะไรจริงแท้ในการบวช หรือเข้าใจกันเพียงว่าบวชแล้วได้บุญ เท่านั้น แท้ที่จริงการบวชในพระพุทธศาสนาก็เพื่อมาขัดเกลาตน มาฝึกตนและนำแนวทางที่ได้ฝึกในขนะที่บวช นำออกไปใช้ในการเดำเนินตนได้อย่างเหมาะสมดีงาม เราเข้ามาบวช ครูท่านจะสอนให้ฝึกตนเคยกินตามอยาก ก็รู้จักการฉันเพื่อความอยู่รอด เคยนอนในที่นอนสบายๆก็มาฝึกนอนดิน สิ่งเหล่านี้ล้วนจะเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อเรานำออกไปใช้ในการดำเนินชีวิต เคยเป็นคนนอนยาก กินยาก เราก็จะรู้จักบังคับตนให้อยู่ง่ายในทุกที่ ความทุกข์ใจวุ่นวายใจมันก็จะเริ่มน้อยลง เคยพูดมากไร้สาระก็จะพูดน้อย พูดแต่สิ่งมีสาระ เคยคิดเรื่อยเปื่อย ก็จะรู้จักคิดอย่างมีระเบียบแบบแผน อย่างนี้ การฝึกตนให้มีระเบียบสามารถควบคุมความคิดควบคุมคำพูด ควบคุมการกระทำได้ เราก็จะไม่กระทำอะไรที่เป็นโทษแก่ตนและคนอื่น ถึงแม้จะผิดพลาดบ่างก็จะยังมีสติปัญญาแก้ไขปรับปรุงได้ ฉนั้นการบวชไม่ใช่บวชมาเพื่อสบายเพื่อหาความสุขสบาย แต่บวชเพื่อมาฝึกตนและนำหลักการฝึกตนที่ได้ฝึกฝนเล่าเรียนนั้นไปใช้ได้ในทุกที่ เมื่อทุกข์เกิดขึ้นเราจะได้ไม่ฟูมฟาย บางคนอาจเจอปัญหาการคลองชีวิตคู่ ก็จะได้รู้จักอดทนข่มใจ มีสติปัญญาแก้ไขทุกข์ในใจตนได้ การฝึกทนต่อความทุกข์ว่ายากแล้ว ก็ยังไม่สู้การทนต่อสิ่งยั่วยวนชวนหลงไหล เพราะมันเป็นสิ่งที่เราต่างปรารถนาอยู่แล้วตามปกติ ใครทนได้จึงถือว่ามีความทนเป็นเลิศ และการบวชก็ต้องมาทนต่อสิ่งเหล่านี้ จึงฝากถึงผู้จะบวชและบวชแล้วที่ยังไม่เข้าใจเหตุผลแห่งการบวชที่ถูกต้อง จะได้ตั่งใจศึกษาและปฏิบัติอย่างจริงจังเพื่อจะได้ประโยชน์จากการบวชอย่างแท้จริง ผู้ที่บวชแล้วก็ลองทบทวนการบวชของตนดู ว่าเคยฝึกตนอย่างไรบ่าง แล้วเอาสิ่งเหล่านั้นแหละมาฝึกตนและปฏิบัติต่อ ยิ่งผู้ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ก็ยิ่งจะต้องรู้หลักตามที่กล่าวมานี้ เครื่องรางที่ท่านเสกจะได้เป็นเครื่องรางมงคลอย่างแท้จริง เพราะมงคลคือความดี จิตที่ฝึกไว้ดียอมเสกวัตถุให้เป็นมงคลได้ เครื่องรางที่เสกด้วยจิตที่ไม่มีระเบียบ แม้เครื่องรางจะขลัง ก็ไม่ใช่ของมงคล อย่างที่เข้าใจ.....



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
5 ธันวาคม 2014 · 
มีความยินดีและดีใจที่วิทยาทานที่ทำไว้เกิดประโยชน์กับหลายๆท่าน ก็อยากแนะอีกอย่างเพื่อจะได้ไม่ผิดพลาดและได้เกิดผลที่ดีมากยิ่งๆขึ้น เวลาเราจารเลขยันต์ตามสูตรนั้น ให้ตั่งจิตใจในการจารตั่งแต่เริ่มลงมือจารจนถึงสิ้นสุด ถ้าเริ่มทำดี ก็จะดีไปทุกขั้นตอน เราจารด้วยความตั่งใจดีแล้วมันก็เกิดผลสมบูรณ์ได้เลย เวลาตั่งขันเสกก็จะไม่ต้องเหนื่อยในการตั่งจิตมาก....



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
6 ธันวาคม 2014 · 
การปฏิบัติธรรมเพื่อให้รู้แจ้งในทุกข์ทุกรูปแบบ ไม่ใช่เพื่อหาความสบาย ...
...ธรรมเทศนาที่ได้ฟัง เลยบอกต่อเผื่อมีคนเข้าใจได้ประโยชน์...



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
8 ธันวาคม 2014 · 
ผมแค่ทำหน้าที่จุดประกายให้เท่านั้นนะ ส่วนความอัศจรรย์มันมีอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติของทุกคน ฝึกนำมันออกมาใช้เอาเถิด...ด้วยความตั่งใจจริง..!



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
19 ธันวาคม 2014 · 
ในความเห็นส่วนตัว
ไม่มีใครเก่งกว่าใครหรอก มีแต่คนรู้ก่อนบอกคนรู้หลัง คนรู้หลังจึงเคารพคนรู้ก่อนด้วยคุณของผู้อุปการะ ต่อเมื่อเราได้รับอุปกระแล้ว ที่เหลือก็อาศัยความพยายามในการกระทำ คนที่ทำไม่ได้คือคนที่ไม่ทำและไม่พยายามที่จะทำเท่านั้นเอง...วิริยะ เป็นอาวุธสำคัญอย่างยิ่ง



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
25 ธันวาคม 2014 · 
เมื่อไหร่ที่เราเอาตนไปเปรียบกับคนอื่น เราจะกลายเป็นคนที่ด้อยกว่าเขาทันที
เพราะความเป็นจริง ไม่มีอะไรที่เป็นอยู่อย่างนั้นเสมอ เรื่องเวทมนต์คาถาก็ไม่ได้ตั่งอยู่บนความแน่นอน เพราะความจริงมันไม่แน่นอน ที่ขลังเพราะใจมั่น ต่อเมื่อใจหมดความศรัทธามั่นคงมันก็เสื่อม การลองจึงเป็นเพียงแค่การเพิ่มความมั่นใจเท่านั้น และก็เป็นความเชื่อเฉพาะกลุ่มคน มีผลเฉพาะกลุ่มคน คนไม่เชื่อจะแสดงให้เขาดูแค่ใหน เขาก็ไม่เชื่อได้และเกิดผลได้ตามที่เราทำ เราเอาดีมาอวดกันคือใครมีดีเอามาอวดมาแสดงเผยแผ่กัน ที่ผมลองให้ดูมีเจตนาแค่ว่า ทำเป็นตัวอย่างให้ผู้ที่ไม่กล้าทำจะได้กล้าทำตาม จะได้เกิดความเชื่อมั่นและใช้เครื่องรางได้เกิดผลเต็มที่ จะไม่ห้ามในการลอง และคนเรียนกับผมไม่ได้ว่าผมต้องเก่งกว่าเพราะผมเป็นครู แต่ทุกคนถ้าตั่งใจจริงมีคุณธรรมเคารพตนเคารพครู เราก็สามารถเก่งกว่าครูและเชิดชูครูได้ การเป็นศิษย์เป็นครูมันเป็นกันจนตาย ตายแล้วก็ยังระลึกถึงคุณความดีกันอยู่ ผมก็ไม่ได้เก่งอะไรแต่มั่นใจว่าสอนคนให้เก่งได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ใจบริสุทธิ์ของศิษย์นั้นเอง



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
28 ธันวาคม 2014 · 
คนบางคน พยายามเอาชนะคนอื่น ด้วยอำนาจความโกรธ ความอยากได้ และความหลงผิด แม้เขาจะเอาชนะคนอื่นได้แต่หารู้ตัวไม่ว่าเขาได้แพ้ใจตัวเองอย่างมหัน ต์ ไม่มีใครขึ้นสวรรค์ลงนรกเพราะการกระทำของคนอื่นได้เลย ทุกอย่างล้วนเกิดจากตนทั้งสิ้น ผู้เป็นบัณฑิต เขาย่อมพยายามเอาชนะตน เพื่อยกจิตให้พ้นจากอำนาจความชั่วเหล่านั้น ด้วยความศรัทธาเชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธองค์



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
31 ธันวาคม 2014 · 
บางทีเราไม่จำเป็นต้องเก่งและทำได้ทุกอย่างหรอก เพียงตั่งใจจริงแล้วทำในสิ่งที่ตนรักและถนัดที่สุดเพียงอย่างเดียว เราก็จะประสบความสำเร็จได้ง่าย เหมือนคนขายส้มตำก็ตำส้มตำให้มันอร่อยจริงๆอย่างเดียวนี้ก็ได้ขายรวยก็มีให้เห็น หากเราเป็นคนจับจดไม่เอาแน่สักอย่างเห็นอะไรว่าดีก็จะเอาหมดเป็นหมด เลยจับหลักยึดไม่ได้สักอัน ผมเรียนเลขยันต์ก็เอาเลขยันต์ให้มันเข้าใจและทำได้ ลองผิดลองถูก แต่ก็ไม่ท้อถึงไม่ได้เก่งอะไรแต่เราก็ควรให้มันได้ผลอะไรขึ้นมาบ่าง อย่าหวังแต่ถูกอย่างเดี๋ยวแต่ควรเรียนรู้ในความผิดตนเพื่อแจ้งชัดในความถูกต้อง...ถ้าเข้าใจในหลักนี้เราก็จะมองเห็นความสำเร็จตนได้ว่าอยู่้ไม่ไกล..!



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
31 ธันวาคม 2015 · 
ขออวยส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
ให้ทุกๆท่าน สมหวังในสิ่งที่หวัง อันไม่เป็นเหตุเดือดร้อนตนและคนอื่น ขอให้มีความสุขทั้งภายนอกคือกาย ทั้งภายในคือใจ ดำรงตนอยู่อย่างมีสติในปัจจุบัน กระทำและนำพาแต่สิ่งดีงามเข้าสู่ตนและส่วนรวมเทอญ สาธุๆๆ
อ. น้อย นารายณ์ พลิกแผ่นดิน 31 ธ.ค.2558...!




ประสิทธิ์ ปาปะแพ
29 ธันวาคม 2015 · 
ผู้ที่เรียนตำราแปลงยันต์ผมไป นำไปสักเสกให้ลูกศิษย์ เมื่อเขาทำตัวไม่ดีผิดครูผิดข้อห้าม คาถาเลขยันต์ที่เราเสกกำกับไปจะค่อยๆเสื่อมเอง ไม่ต้องไปใช้คาถาเรียกอะไรกลับดอก เวลาทำก็ให้กล่าวอธิฐานถึงครู ใครนับถือและทำตามก็ให่เจริญ ใครผิดคำไม่นับถือ ทำให้ครูมัวหมองตามก็ให้เสื่อมสูญไป อธิฐานไว้เท่านี้ก็พอ อย่าคิดอาฆาตศิษย์ให้จิตเราเศร้าหมอง เขาทำไม่ดีเขาได้รับผลเอง เราตั่งใจดีไว้แล้วก็ทำตามหน้าที่ ส่วนเขาจะเคารพหรือไม่เคารพ จะทำตามหรือไม่ทำตาม เป็นหน้าที่เขาที่จะต้องทำเอง พ่อครูสอนผมเสมอว่าใครทำไม่ดีกับเราก็อย่าไปจองเวลเขา ให้ธรรมชาติลงโทษเอง ทุกวันนี้ผมก็พยายามคิดและทำตามเสมอ คนที่มาเรียนวิชชาด้วย ร้อยคนดีสักห้าสิบก็เสมอตัวแล้ว อีกห้าสิบที่ไม่ดี ถึงเวลาเขาคิดได้เอง ถ้าคิดไม่ได้ก็แล้วแต่กรรม ฉนั้นท่านทั้งหลายจงตั่งใจเป็นกลางไว้อย่างนี้ เรามีหน้าที่เป็นครูเป็นอาจารย์ก็มีหน้าที่บอกและแนะนำกันไปตามหน้าที่ และหน้าที่เราเป็นครูก็ควรทำใจให้หนักแน่นให้สมกับคำว่าครู ที่แปลว่าหนัก จงยินดีเมื่อเขาได้ดี จงส่งเสริมเมื่อเขาก้าวหน้า จงวางเฉยเมื่อเขาเณรคุณ....มนุษย์มีกรรมเป็นสมบัติของตนเองและมีผลที่ต้องรับเองแล ไม่จำเป็นต้องไปผูกเวลกรรมต่อกันเพิ่ม คนปลูกมะม่วง ออกลูกเป็นถั่วงอกคงไม่มี....สาธุๆๆ




ประสิทธิ์ ปาปะแพ
29 ธันวาคม 2015 · 
ความเจริญแห่งการกระทำทั้งหลาย เริ่มจากความเจริญภายในใจตนด้วยความคิดดีแล้ว นั้นเอง



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
29 ธันวาคม 2015 · 
กรรมสามารถเกิดได้สามทาง หนึ่งทางกาย สองทางวาจา สามทางใจ
การที่บุคคลๆหนึ่งกระทำคุณความดี เช่นพิธีกรรมบวงสวงบูชา (จัดอยู่ในมงคล38ประการ ปูชาจะปูชะนียานังเอตัมมังคะละมุตตะมัง บูชาบุคคลที่ควรบูชา มีพระรัตนตรับ บิดามารดา ครู เป็นต้นจัดเป็นมงคลคือความดี)
จึงตั่งปรารถนาดีแผ่เมตตาบอกกล่าวแก่ผู้มีจิตศรัทธา ได้ร่วมยินดีโมทนา การที่บุคคลมีศรัทธาตั่งมั่นด้วยมุทิตาจิต ความพลอยยินดีในสิ่งที่บุคคลอื่นทำความดี นี้ก็เป็นกุศลจิต เป็นกรรมกุศลฝ่ายดี การที่บุคลตั่งจิตโมทนาบุญร่วมยินดีในการกระทำนั้นๆอันเป็น นิมิตอันดีคือ ได้ทัศนาความเป็นมงคลของบุคคลอื่นแล้วร่วมยินดี ก็เป็นกุศลกรรมฝ่ายดี จัดอยู่ในกุศลกรรมบทสิบประการ คือความพลอยยินดีโมทนาบุญในความดีที่บุคคลอื่นกระทำ
ฉนั้นจิตที่ชื่นชมยินดีในความดีของบุคคลอื่นด้วยใจที่เปี่ยมด้วยกุศลย่อมเป็นผลบุญให้ตนเองสุขใจตามแต่สติปัญญา
ส่วนจิตคิดอิจฉาริสยาย่อมปิดบังความดีตน พิจจารนาไม่เห็นธรรม แม้คนกราบต้นไม้ถ้าทำแล้วไม่เป็นกรรมเลวเบียดเบียนใคร ก็ดีเสียกว่าคนอยู่ในศีลแต่ขาดปัญญาในการกระทำความดี ฉนั่นความดีมีให้ทำหลายๆทางและหลายระดับ อย่างนี้แล สาธุๆๆ



ประสิทธิ์ ปาปะแพ
26 ธันวาคม 2015 · 
ความทุกข์ เป็นข้อสอบวัดความดีตน..!


พื้นที่โฆสนา 
จองง่ายจ่ายสะดวก 
 รวมข้อเสนอที่ดีที่สุดจากสายการบิน 
 คัดสรรโปรดีที่สุดจากสายการบินแบบ FULL SERVICE 
 มีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาพร้อมดูแลระหว่างการเดินทาง 
 จองตั๋วเครื่องบินออนไลน์วันนี้ 24 ชั่วโมง ที่ Thaifly.com 
 จองที่ Thaifly.com การันตีได้ราคาถูกกว่าสายการบินแน่นอน 100% 

 สอบถามเพิ่มเติมโทรหาเราสิคะ ที่แผนกตั๋วเครื่องบิน 02 713 8992 กด 1

 ต้องการลงโฆสนาติดต่อโดยตรงที่เบอร์   0869732570

เดือนละ150บาท  ต่อ  หนึ่งหัวข้อ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

เพจ Jiraporn Tongkampra

เพจ Jiraporn Tongkampra
แบ่งปันสื่อ ไอเดียสอนลูก ใบงาน ไฟล์แบบฝึกหัด เพื่อการเรียนรู้ของลูกน้อย ของเล่นเสริมพัฒนาการ

บ้านนารายณ์ซับสกรีน

บ้านนารายณ์ซับสกรีน
รับออกแบบยันต์ต่างๆ ปั้มลงผ้ายันต์และเสื้อยันต์ รวมทั้งเสื้อใส่เล่น ในราคาถูก

ช่องยูทูปครูน้อย

ช่องยูทูปครูน้อย
ติดตามคลิบวีดีโอที่แบ่งปันวิทยาทานและธรรมทานได้อีกช่องทาง