เผยแพร่องค์ความรู้เกียวแก่เลขยันต์อักขระเป็นวิทยาทาน และให้เช่าบูชาเครื่องราง

ครูน้อย นารายณ์ พลิกแผ่นดิน. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

   ปลูกเฮือนวันใดดี?



พื้นที่โฆสนา 
จองง่ายจ่ายสะดวก 
 รวมข้อเสนอที่ดีที่สุดจากสายการบิน 
 คัดสรรโปรดีที่สุดจากสายการบินแบบ FULL SERVICE 
 มีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาพร้อมดูแลระหว่างการเดินทาง 
 จองตั๋วเครื่องบินออนไลน์วันนี้ 24 ชั่วโมง ที่ Thaifly.com 
 จองที่ Thaifly.com การันตีได้ราคาถูกกว่าสายการบินแน่นอน 100% 

 สอบถามเพิ่มเติมโทรหาเราสิคะ ที่แผนกตั๋วเครื่องบิน 02 713 8992 กด 1

 ต้องการลงโฆสนาติดต่อโดยตรงที่เบอร์   0869732570
เดือนละ150บาท  ต่อ  หนึ่งหัวข้อ


วิถีชีวิตของชาวอีสานนั้น
ผูกพันกับความเชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภูตผี บรรพบุรุษ และดวงดาว การจะทำการสิ่งใดๆ จึงต้องมีพิธีรีตรอง ตั้งแต่การหาฤกษ์งามยามดี การไหว้ผี ขอสมาบรรพบุรุษ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตนเอง และครอบครัว หลายๆ เรื่องก็เป็นกุศโลบายในการจัดการงานให้ราบรื่น บางเรื่องก็เพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ บางเรื่องก็เพื่อความสบายใจ ปลอดโปร่ง คลายกังวล และในยุคนี้ หลายๆ พิธีกรรมก็ยังคงรักษาสืบเนื่องกันมา มิได้ขาด
ปัจจัยสี่ที่สำคัญของมนุษย์ย่อมมีที่อยู่อาศัย หรือ บ้าน เฮือน เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ไม่ว่าเราจะไปทำมาค้าขาย ทำกิจการงานที่ใดก็ตาม เมื่อเสร็จกิจการงานแล้วก็จะกลับมายังบ้านพักอาศัยเสมอ เพราะบ้านเป็นที่ที่เราภาคภูมิใจ เป็นสิ่งที่รักและหวงแหน ความอบอุ่นเกิดภายในบ้าน นอนหลับสบายใจไร้ความกลัว และความหวาดระแวง แต่ถ้าปลูกบ้านไม่ถูกโฉลกกับเจ้าของ ความทุกข์ความเดือดร้อนก็จะเกิดขึ้นกับเรา ดังนั้น จึงควรเลือกวัน เวลา เดือน ปี โสกหรือโฉลก และวิธีปลูกบ้าน ให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมโบราณณ
1.        ปลูกเฮือนวันใดดี?
·         วันอาทิตย์ ท่านห้ามปลูกความอุบาทว์จัญไรจะเกิด
·         วันจันทร์ ท่านว่าปลูกได้จะมีลาภ ผ้าผ่อนท่อนสะไบบังเกิดแก่เจ้าของบ้าน
·         วันอังคาร ท่านห้ามปลูก จะเกิดอันตรายจากไฟ
·         วันพุธ ท่านว่าดี มีลาภเป็นของขาวเหลือง
·         วันพฤหัสบดี ท่านว่าดี จงปลูกเถิดจะได้ลาภและความสุขพูนทวี
·         วันศุกร์ ท่านว่า ห้ามปลูกจะมีทุกข์และสุขเท่ากันแล
·         วันเสาร์ ท่านห้ามปลูกเด็ดขาด จะเกิดถ้อยความมีคนเบียดเบียน และจะมีเรื่องเดือดร้อนใจ
2.        ปลูกเฮือนเดือนใดดี?
·         เดือนอ้าย (เดือน 1) ท่านว่า จะทำมาค้าขึ้น จะได้เป็นเศรษฐี เพราะกิจการค้านั้น
·         เดือนยี่ (เดือน 2) ท่านว่าดี มีศิริในการป้องกันศัตรูทั้งมวล
·         เดือนสาม ท่านห้ามปลูก จะมีภัย ศัตรูเบียนเบียด
·         เดือนสี่ ท่านว่า ปลูกดีจะมีลาภ จะมีความสุขกายสบายใจ
·         เดือนห้า ท่านว่าจะเกิดทุกข์ร้อนไม่สบายใจ
·         เดือนหก ท่านว่าประเสริฐ จะส่งผลให้เงินทองไหลมาเทมา
·         เดือนเจ็ด ท่านห้ามปลูก จะเป็นอันตรายแก่ทรัพย์ที่หาไว้ได้แล้ว จักถูกโจรลัก หรือไฟไหม้
·         เดือนแปด ท่านห้ามปลูกเฮือนในเดือนนี้ เงินทองข้าวของที่เก็บไว้ จะมิอยู่คงที่แล
·         เดือนเก้า ท่านให้เร่งปลูกเฮือน ถ้ารับราชการจะได้รับการปูนบำเหน็จแล ถ้ามิได้รับราชการก็จะเจริญในการประกอบอาชีพแล
·         เดือนสิบ ท่านห้ามปลูก จะได้รับอันตรายจากโทษทัณฑ์ อาญาแผ่นดิน และการเจ็บไข้ได้ป่วย
·         เดือนสิบเอ็ด ท่านห้ามปลูกจะถุกคนหลอกลวงเอาของ และสิ่งที่ห่วงแหน
·         เดือนสิบสอง ท่านว่าควรเร่งปลูก จะได้เงินทองข้าวของ ช้างม้า ข้าทาสผู้ซื่อสัตย์แล
 
3.        ปลูกเฮือนปีใดดี?
·         ปีชวด ให้เอากิ่งไม้คูณหรือไม้ราชพฤกษ์ มัดเสาแล้วจึงยกเสาลงหลุม เป็นมงคลแล
·         ปีฉลู ให้เอาผ้าขาวม้าห่อกล้วยพันปลายเสา เอากิ่งตูม 3 กิ่ง มามัด จึงยกเสาลงหลุมดีนักแล
·         ปีขาล ให้เอาข้าวใส่กระทง 3 อันมาวางบนเสา แล้วเอาน้ำมารด 3 ขัน จึงยกเสาลงหลุมดีนักแล
·         ปีเถาะ ให้เอาใบตะเคียน ใบหูดหอม และต้นกล้วย มัดปลายเสา แล้วจึงยกเสาลงหลุมดีนักแล
·         ปีมะโรง ให้เอาผ้าห่อใบหูดหอม และกำยานพันปลายเสา แล้วยกเสาลงหลุมดีนักแล
·         ปีมะเส็ง ให้เอาใบทอง 2 กิ่ง ผูกปลายเสา เอาข้าวสุกใส่กระทง 3 กระทง ธูป 3 คู่ เทียน 3 คู่ บูชา แล้วจึงยกเสาลงหลุมดีนักแล
·         ปีมะเมีย ให้เอาใบขี้เหล็ก 3 กิ่งกวาดตั้งแต่ปลายเสาลงมาถึงต้นเสา 3 ที แล้วเอาน้ำรดปลายเสา 3 ขัน รอจังหวะถ้าได้ยินไก่ขัน จึงยกเสาลงหลุมมีโชคชัยแล (ถ้าไม่มีไก่ขันให้ขันสมมุติเอา)
·         ปีมะแม ให้เอาใบเงิน 3 ใบ ใบหมากตัวผู้และหมากตัวเมียอย่างละ 3 ใบ กล้วยสุก 3 หน่วย อ้อย 3 ข้อ ใส่ในหลุม แล้วจึงยกเสาลงหลุมดีนักแล
·         ปีวอก หรือปีระกา ให้เอาเทียน 3 เล่ม ไปผูกต้นเสาทางหัวนอน ต้นไหนก็ได้ จึงยกเสาลงหลุมดีนักแล
·         ปีจอ หรือ ปีกุน ให้เอาข้าวตอกแตก 5 ดอก ใบบัวบก 5 ใบ รองตรงหัวเสาในหลุมก่อน จึงยกเสาลงหลุมดีนักแล
 
4.        วิธีขุดเสาเฮือน โบราณาจารย์ท่านว่า บ้านต้องปลูกใส่บนดิน ในดินมีทั้งแม่ธรณีและพญานาค (นาคดิน) เป็นอารักษ์ เพื่อให้เกิดความเป็นศิริมงคล ท่านว่า ควรย้ายแม่ธรณีและทำให้ถูกต้องตามโครงการนาคดิน กล่าวคือ นาคดิน นี้เราจะต้องรู้จักว่า หัวนาค หางนาค หลังนาค และท้องนาค อยู่ทางทิศไหนในแต่ละเดือนที่เราจะปลูกบ้านก่อนเพื่อปฏิบัติได้ถูกต้อง มิฉะนั้นจะถูกพิษนาค ทำให้เราเจ้าของบ้านต้องเดือดร้อน เจ็บป่วยออดๆ แอดๆ ควรปฏิบัติดังนี้
§  การย้ายแม่ธรณี
      ก่อนจะมีการขุดดินปลูกบ้าน โบราณท่านว่า ให้ย้ายแม่ธรณี และสิ่งของที่เป็นอาถรรพ์ทั้งหลายออกไปก่อน บ้านจึงจะเป็นบ้านอยู่สุข วิธีย้ายให้เอาเทียนเหลือง 1 คู่ ดอกไม้ขาว 1 คู่ แต่งใส่ขัน แล้วเอาผ้าขาวพาดบ่า (ห่มเฉลียงบ่า) เดินไปตรงกลางลานดินที่จะปลูกบ้าน แล้วกล่าวคำอัญเชิญว่า
      "อุกาสะ ผู้ข้าขออัญเชิญแม่ธรณีเจ้าได้ออกจาก (หยับย้ายออกจาก) ที่ปลูกบ้าน เพราะที่ปลูกบ้านลูกหลานย่อมทิ้งสิ่งสกปรก ขอย้ายแม่ออกไปอยู่ข้างบ้าน แล้วขอให้แม่คุ้มครองปกป้องรักษาบ้าน และลูกหลานในบ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข ขอให้แม่นำสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย หมายมีกระดูกเป็นต้น ขอให้แม่โยนทิ้งไปให้ไกล เอาเหลือไว้แต่สิ่งอันเป็นมงคลแก่ข้าเทอญฯ"
      แล้วนำเอาธูปเทียนนั่นทิ้ง วางไว้ทางทิศตะวันตกของที่ปลูกบ้าน ส่วนผู้จะประกอบพิธีนี้จะให้คนแก่ที่มีศีลธรรม (ผู้ชาย) หรือจะเอาผู้ชายเจ้าของบ้านนั้นก็ได้
§  การหลีกพิษนาค ในเดือนที่เราเห็นว่าปลูกบ้านดี เช่น เดือนอ้าย เดือนยี่ เดือนสี่ เดือนหก เดือนเก้า และเดือนสิบสอง ควรจะรู้ว่าเดือนเหล่านี้ ส่วนของนาคส่วนใดอยู่ทิศใด เวลาขุดดินการโกยดิน และการวางเสาแอกเสาขวัญ จะวางได้ถูกทิศทาง จะได้ไม่รับอันตรายจากพิษนาค โบราณท่านว่าดังนี้
·         เดือนอ้ายและเดือนยี่ หัวนาคอยู่ทางทักษิณ (ทิศใต้) หางนาคอยู่ทางทิศอุดร (เหนือ) ท้องนาคอยู่ทางทิศปัจจิม (ตะวันตก) หลังนาคอยู่ทางทิศบูรพา (ตะวันออก) เวลาเข้าไปขุดดิน ให้เข้าไปในทางทิศท้องนาค โกยดินก็โกยไปทางทิศท้องนาคเช่นกัน คือทิศตะวันตก
·         เดือนสี่และเดือนหก หัวนาคอยู่ทางทิศปัจจิม หางนาคอยู่ทางทิศบูรพา หลังนาคอยู่ทางทิศอุดร ท้องนาคอยู่ทางทิศทักษิณ เมื่อเข้าไปขุดดินให้เข้าไปทางทิศท้องนาค โกยดินไปทางทิศอาคะเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) เมื่อเอาเสาไปวางก็หันปลายเสาไปทางทิศอาคะเนย์
·         เดือนเก้า หัวนาคอยู่ทางทิศบูรพา หางนาคอยู่ทางทิศปัจจิม หลังนาคอยู่ทางทิศทักษิณ ท้องนาคอยู่ทางทิศอุดร การเข้าไปขุดเสาให้เข้าไปทางทิศเหนือ แต่การโกยดินและการหันปลายเสาเมื่อเอาไปวางปากหลุม ให้โกยและหันไปในทิศอิสาณ (ตะวันออกเฉียงเหนือ)
·         เดือนสิบสอง หัวนาคอยู่ทิศอุดร หางนาคอยู่ทางทิศทักษิณ หลังนาคอยู่ทิศบูรพา ท้องนาคอยู่ทางทิศปัจจิม ให้เข้าไปขุดเสาในทิศตะวันตก โกยดินไปทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) การเอาเสาไปวางก็ให้หันปลายเสาไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นศิริมงคลนักแล
§  วิธีบูชานาค เพื่อเป็นสิริมงคลต่อบ้าน โบราณท่านให้ทำเครื่องเซ่นไหว้พญานาค ซึ่งประกอบด้วยธูปเทียน และเครื่องบวดต่างๆ วิธีการทำมีดังนี้
·         ให้เอาโต๊ะไปตั้งวางไว้ทิศหัวนาคอยู่ แล้วเอาของหวานใส่ เช่น บวดฟักทอง ใส่ถ้วยวางไว้ในถาด เอาดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่ ธูป 5 คู่ ใส่ในถาดวางไว้บนโต๊ะ
·         ให้ทำธงใส่หลักไปปักข้างโต๊ะเครื่องเซ่นไหว้ทั้ง 2 ข้าง สำหรับผ้าทำธงให้ใช้สีตามเดือน ดังนี้
เดือน
สีธง
เดือน
สีธง
เดือนอ้าย
สีขาว
เดือนยี่
สีขาว
เดือนสี่
สีเหลือง
เดือนหก
สีเหลือง
เดือนเก้า
สีดำหรือสีนิล (เขียวแก่)
เดือนสิบสิง
สีแดง
·         กล่าวคำบูชา 1 จบ ว่า "อะยัง มะหานาโค อิทธิมันโต ชุติมันโต อิมินา สักกาเรนะ มะหานาคัง ปูเชมิ"
วิธีขุดเสา เมื่อเราทำเครื่องบูชาเสร็จแล้ว ให้ลงมือขุดหลุมเสาแฮก คนที่ถือเคร่งจริงๆ เวลาขุดหลุมเสาแฮกนั้น เขาจะเอาไม้คูณ หรือไม้ยอทำด้ามเสียมก่อน คนขุดก็จะตั้งชื่อให้ว่า "ท้าวเงิน ท้าวคำ ท้าวแก้ว ท้าวค้ำ ท้าวคูณ" ชื่อใดชื่อหนึ่งตามความเหมาะสม ให้เป็นผู้ขุดเสาแฮก แต่ถ้าจะตั้งชื่อคนขุดทั้ง 8 หลุม (เรือน 3 ห้องสมัยโบราณมีเสา 8 ต้นต่อเกย หรือเฉลียงอีก 4 ต้น จึงรวมเป็น 12 ต้น เกยไม่นับเป็นเรือน) ก็ให้ตั้งเพิ่มอีก 3 ชื่อ คือ ท้าวสุข ท้าวดี ท้าวมี แล้วให้ขุดเสาคนละเสา
สำหรับเสียมขุด นอกจากเสาแฮกแล้วจะเอาด้ามอะไรก็ได้ เฉพาะเสาเอกหรือเสาแฮก ให้ใช้เสียมไม้คูณ หรือไม้ยอ โดยให้ท้าวเงินเป็นคนขุด ในเวลาขุดหลุมเสาย่อมจะพบสิ่งที่เป็นมงคลและไม่เป็นมงคล ดังนั้นเมื่อพบแล้วให้แก้นิมิตแก้อาถรรพ์ ดังนี้
1.        ถ้าขุดไปพบกระดูก ท่านให้เอาน้ำสะอาดสรงแก้วแหวนเงินทอง มารดลงในหลุมเป็นศิริมงคลแล
2.        เมื่อขุดลงไปพบขนสัตว์หรือเชือก ให้ไปขอน้ำมนต์จากพระมารดหลุม เป็นศิริมงคลแล
3.        ถ้าขุดลงไปพบไม้ทราง ให้นิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์ แล้วเอาน้ำพระพุทธมนต์รดลงในหลุม เป็นศิริมงคลแล
4.        ถ้าขุดลงไปพบอิฐ หรือดินเหมือนขี้หนู ท่านให้เอาน้ำผึ้งแท้รดลงในหลุม เป็นศิริมงคลแล
5.        ถ้าของไม่ดีนอกจากนี้ ท่านให้เอาน้ำสรงพระพุทธรูปใส่ขันไว้ เอาดอกบัวหลวง และหญาแพรก ใส่ลงในหลุม แล้วเอาน้ำสรงพระพุทธรูปรดลงในหลุม เป็นศิริมงคลแล
6.        ก่อนเอาเสาแฮก (เสาเอก) ทางหัวนอนลงหลุม ให้เขียนกลใส่หลุมว่า "ปู่ก่อสร้างเป็นอาชญ์เฮือนหิน เงินคำมีหมื่นกือกองล้น" ต้นเสาขวัญทางตีนนอน (เสาขวัญ) ให้เขียนกลใส่ในหลุม ก่อนเอาเสาลงหลุมดังนี้ .หลานก่อสร้างเป็นอาชญ์เฮือนหิน เงินคำมีหมื่นกือกองล้น" เขียนแล้วเอาลงใส่ในหลุมดังกล่าว
ลักษณะที่ดินที่ไม่ควรปลูกเฮือน
1.        พื้นดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ท่านว่าไม่ควรปลูกบ้านเพราะเข้าลักษณะโลงผี จะทำให้เจ็บไข้ได้ป่วย ควรแยกที่ดินนั้นเป็นสวนไม้ดอก ไม้ผล ด้วยการกั้นรั้วแบ่งเป็นสัดส่วนให้ที่ดินเปลี่ยนรูปร่าง ไปเสียส่วนหนึ่งก่อน แล้วจึงปลูกท่านว่าจะเป็นมงคลแล
2.        ที่ดินรีแหลมยาวรูปธง ท่านว่าไม่ควรปลูกบ้าน ถ้าจะปลูกควรแก้เคล็ดดังข้อ 1 เสียก่อน จึงปลูกบ้าน ท่านว่าจะเป็นมงคลแล
3.        อย่าปลูกบ้านกวมตอไม้ใหญ่ ถ้าจะปลูกก็ควรขุดออกให้หมดเสียก่อน มิฉะนั้นจะทำให้เจ็บไข้ได้ป่วย ท่านว่า มีภูติผีสิงอาศัยอยู่ในนั้น
4.        อย่าปลูกเฮือนอกแตก คือทำบ้านสองหลังเป็นฝาแฝด แต่ชายคาไม่ต่อกัน จะทำให้คนในบ้านทะเลาะวิวาทกัน
5.        อย่าปลุกเฮือนหงำเฮือน (ข่มเฮือน) คือทำเฮือนใหญ่ที่เป็นเสาเอกนั้น ต่ำกว่าเฮือนเล็กที่สร้างขึ้นใหม่ โบราณท่านว่า จะยากไร้อนาถา ไม่มีคนยำเกรง มีแต่คนข่มเหงแล
blเสาแฮก - เสาขวัญ
มีหลายคนได้ยินแต่คนพูด แต่ไม่รู้ว่า เสาแฮก เป็นต้นไหน เสาขวัญเป็นต้นไหน มันอยู่ตรงไหนของบ้าน ทำไมจึงเรียกอย่างนั้น? ตอนจะปลูกบ้าน โบราณอีสานมีเคล็ดวิธีผูกของเป็นมงคลที่เสาแฮกเสาขวัญอย่างไร และตอนก่อนจะเอาเสาลงหลุม เอาอะไรผูกเสาแฮก และเอาอะไรผูกเสาขวัญ ถ้าไม่รู้ไม่เข้าใจก็ปฏิบัติไม่ถูก ขอแนะนำเพื่อความเข้าใจถูกต้อง ดังนี้
sqความหมาย
1.        เสาแฮก คำว่า "แฮก" เป็นภาษาอีสานมีความหมายว่า แรก หรือ เริ่มแรก หรือ หนึ่ง หรือ ต้นที่หนึ่ง ดังนั้นคำว่าเสาแฮกจึงหมายถึงเสาต้นแรก ต้นที่หนึ่งที่เป็นเสาหลักของบ้าน มิได้หมายถึงลำดับการนับต้นเสาจากหัวแถวด้านใดด้านหนึ่ง
2.        เสาขวัญ คำว่า ขวัญ เป็นได้ทั้งภาษาอีสานและภาษากลาง หมายถึงต้นเสาที่เป็นมิ่งบ้าน ขวัญบ้าน โบราณอีสานถือว่าเป็น "เสาแม่บ้าน" ตั้งอยู่ติดกับเสาแฮก แต่อยู่ในแถวที่สอง เสาแฮกอุปมาเหมือนพ่อบ้าน เสาขวัญก็อุปมาเหมือนแม่บ้านนั่นเอง
sqที่ตั้งของเสาแฮกและเสาขวัญ
เพื่อจะให้ผู้อ่านและเยาวชนรุ่นหลังได้รู้ว่า เสาแฮกเป็นต้นไหน เสาขวัญเป็นต้นไหน จะแสดงตำแหน่งที่ตั้งของเสาดังกล่าวให้ทราบโดยยกตัวอย่างบ้านโบราณอีสาน ซึ่งเป็นบ้าน 3 ห้อง เสา 8 ต้น ถ้ามีเฉลียงก็ 12 ต้น
จะเสากี่ต้นก็ตาม ก็ให้เอาเสาต้นที่ 3 แถวที่หนึ่งทางหัวนอน นับจากซ้ายไปขวาเป็นเสาแฮก เอาเสาต้นที่ 3 แถวที่สองเป็นเสาขวัญ นับจากซ้ายมาทางขวา โดยผู้นับหันหน้าขึ้นไปทางหัวนอน
sqการผูกเสาแฮกเสาขวัญ
1.        ผูกเสาแฮก ของที่จะใช้ผูกเสาแฮก นอกจากจะปฏิบัติตามวิธีปลูกบ้านตามปีแล้ว การผูกของที่เสาแฮกนั้นท่านให้เอาต้นกล้วยทะนีออง (กล้วยน้ำหว้า) ห้ามกล้วยทะนีใน (ตานีเม็ด) ต้นอ้อย กิ่งคูณ กิ่งยม กิ่งยอ และอักที่มีไหม หรือด้ายผูกไว้ตรงที่เป็นมุงคุล
2.        ผูกเสาขวัญ ของที่จะผูกเสาขวัญนั้น โบราณท่านให้เอาเงิน 9 เหรียญ ไซ หัวหอม และเหมี่ยงหมาก
sqเคล็ดพิธีในการผูกของมุงคุล
1.        การผูกเสาแฮก เมื่อได้ของมุงคุลแล้ว ท่านให้ตั้งคนส่วนหนึ่งทั้งหญิงและชายไปยืนอยู่ใกล้ๆ พ่อใหญ่ประเพณี (ผู้ดำเนินการ) ก่อน มิฉะนั้นจะตอบไม่ถูก เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว พ่อใหญ่ประเพณีจะเอาฝ้ายมุงคุลทุกอย่างไว้ให้หมด แล้วจะหยิบต้นกล้วยขึ้นมาก่อน แล้วทำทีจะผูกต้นเสา พร้อมทั้งเอ่ยเสียงดังว่า "เอา(ผูก)บ่อนจุ๊กุ๊หมูสีนี่ล่ะนอ?" ชาวบ้านที่ยืนอยู่ใกล้ๆ จะร้องส่งเสียงดังว่า "บ่ บ่ เอา" พ่อใหญ่ประเพณีก็จะขยับไปที่กลางเสา พร้อมร้องถามอีกว่า "เอา(ผูก)บ่อนจิ๊กีหางนาคนี่ล่ะนอ?" ชาวบ้านจะร้องตอบอีกว่า "บ่ บ่ เอาดอก" และพ่อประเพณีก็จะเดินไปที่ใกล้ปลายเสาพร้อมทั้งเอ่ยอีกว่า "เอา(ผูก)บ่อนหง่าไม้ตากห้อยถงเงินนี่ล่ะนอ?" ชาวบ้านจะร้องพร้อมกันว่า "เออๆ เอาบ่อนนี่หล่ะ" พ่อประเพณีก็จะผูกต้นกล้วย ต้นอ้อย กิ่งคูณ กิ่งยอ และอักรวมไว้ที่นั่น
2.        การผูกเสาขวัญ เมื่อเสร็จจากเสาแฮกแล้ว ก็จะเป็นการนำของมุงคุลทั้งหมดไปผูกเสาขวัญ ด้วยการดำเนินการเช่นเดิม โดยเริ่มที่โคนเสาก่อน พ่อใหญ่ประเพณีจะร้องถามว่า "เอา(ผูก)บ่อนงัวแม่ลายปลายเขาย่องนี่นอ?" ชาวบ้านจะร้องตอบว่า "บ่ บ่เอา" พ่อใหญ่ฯ จะเดินต่อไปที่กลางเสาแล้วร้องถามว่า "เอา(ผูก)บ่อนฆ้องเก้ากำ คำเก้ากลุ่ม นี่นอ?" ชาวบ้านจะตอบว่า "บ่ บ่เอา บ่อนนี่ดอก" พ่อใหญ่ฯ จะเดินต่อไปใกล้ปลายเสา พร้อมกับร้องว่า "เอา(ผูก)บ่อนอยู่ซุ่ม กินเย็นนี่นอ?" ชาวบ้านจะร้องตอบว่า "แม่นแล้ว เอาหม่องนี้หล่ะ" พ่อใหญ่ฯ ก็จะผูกของมุงคุลทุกอย่างตรงนั้น จากนั้นก็ดำเนินการยกเสาลงหลุมตามวิธีการต่อไป
sqคาถาสวดตอนยกเสาลงหลุม
ในการยกเสาลงหลุม นอกจากจะเขียนคาถาลงใส่ในหลุม และเอาของมุงคุลผูกที่เสาแล้ว ถ้ามีพระพอที่จะนิมนต์มาได้ ก็นิมนต์มาสวดชยันโต รดเสาตอนยกเสาลงหลุมด้วย แต่ถ้าไม่มีพระ ก็ให้พ่อใหญ่ประเพณีสวดคาถา พร้อมเอาน้ำมนต์รดเสาไปด้วย คาถาสวดรดให้ว่าดังนี้
1.        ว่า "นโม ตัสสะ ฯลฯ สัมมาสัมพุทธัสสะ" 3 จบ
2.        ให้สวดคาถาว่า "สิทธิชะโย ชะยะติ มาระกัง มะนุสสาปิ จะ สัพเพ เทวา จะ คันธัพพา ปูชะยันตา ปัตถยันติ ตัมปิ ตัสสานุภาเวนะ สัพเพ สัตตู วินาสันตุ สัพพาเสนา อุปักกะมุง อมทูเร ทูเร สะวะหายะ" สวดจบเดียวพอ

sqข้อปฏิบัติก่อนยกเสาลงหลุม
ตอนที่เรายกเสาไปวางที่ปากหลุมนั้น นอกจากการสวดคาถาแล้ว โบราณอีสานท่านให้หันปลายเสาไปในทิศทางที่เป็นมงคล ซึ่งจะสอดคล้องกับเดือนต่างๆ ดังนี้
เดือนที่ปลูกบ้านเฮือน
ทิศที่ดีในการหันปลายเสา
เดือนอ้าย - ยี่
ให้หันปลายเสาไปทางทิศอีสาน เจ้าของบ้านจะอยู่เย็นเป็นสุข
เดือนสี่ - หก
ให้หันปลายเสาไปทางทิศอาคะเนย์ เจ้าของบ้านจะมีโชคแล
เดือนเก้า
ให้หันปลายเสาไปทางทิศหรดี จะเกิดความสงบสุขภายในบ้าน
เดือนสิบสอง
ให้หันปลายเสาไปทางทิศพายัพจะเกิดความรุ่งเรือง
เดือนสาม, ห้า, เจ็ด, แปด, สิบ, สิบเอ็ด
ไม่แนะนำให้ปลูกเฮือนเพราะเป็นเดือนต้องห้าม

sqการตั้งบันไดบ้าน
บันไดทางขึ้นบ้านเราอาจจะเลือกทิศทางตั้งไม่ได้ตามทิศที่ดีตาม โหราจารย์ท่านระบุ ด้วยสาเหตุของที่ดิน ทิศทางเข้าออก แต่ถ้าเลือกได้ควรจะเลือกให้อยู่ในทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) ทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) ทิศอุดร (ทิศเหนือ) และทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) แต่ถ้าเลือกไม่ได้ ในวันขึ้นบ้านใหม่ให้หาบันไดสำรองพาดตัวบ้านตามทิศที่ดีนั้น แล้วกระทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ เมื่อเสร็จพิธีก็ให้รื้อบันไดสำรองออกเสีย
blการขึ้นเฮือนใหม่
เมื่อสร้างบ้านเฮือนสำเร็จเสร็จสิ้น โบราณอีสานจะต้องมีพิธีกรรมในการขึ้นเฮือนใหม่ เอาฤกษ์เอาชัยเพื่อความเป็นสวัสดิมงคล ซึ่งต้องคำนึงถึงทิศ และวันที่เหมาะสม พร้อมทั้งการถือสิ่งของอันเป็นมงคลขึ้นบ้านดังนี้
  • ขึ้นทิศบูรพา (ตะวันออก) ให้เอาเงินทองใส่ขันถือเดินขึ้นก่อนจึงจะมีลาภ
  • ขึ้นทิศอุดร (เหนือ) ให้ขนเอาของขึ้นก่อน จะอยู่เย็นเป็นสุข
  • ขึ้นทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) ให้เอาของขาว เช่น งา ผ้าขาว หรือของขาวที่เป็นมงคลอย่างอื่นก็ได้ขึ้นก่อน จะดีและมีลาภ
วันขึ้นบ้านใหม่ตามโบราณนิยมจะเป็นวันพุธ พฤหัสบดี และวันศุกร์ จะอยู่เย็นเป็นสุข และอย่าลืมดูยามที่เป็นมงคลประกอบด้วย ก่อนเวลาจะขึ้นบ้านใหม่จะแบ่งกลุ่มคนที่มาร่วมงานออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 มีจำนวนมากจะทำหน้าที่เป็นเจ้าของบ้านอยู่กับบ้าน ให้เตรียมตุ่มใส่น้ำพร้อมกระบวย เอาใบกล้วยมาวางไว้ที่ดินตรงทางขึ้นบันได เอาหินมาทับไว้แล้วคอยดูอยู่ อีกกลุ่มหนึ่งมีประมาณ 3 คน เป็นชายหนึ่ง หญิงสอง ผู้ชายเป็นหัวหน้าใหญ่ใส่กุบเกิ้ง (หมวกงอบใหญ่) พายถงย่ามใบใหญ่ ในถงนั้นจะมีสิ่ว ฆ้อน ของค้ำคูณที่เป็นมงคลเช่น คุด เขา นอ งาช้าง เป็นต้น ส่วนผู้หญิงสองคนนั้นจะหาบกระบุงสายยาว หรือกระต่า แต่งตัวด้วยผ้าถุงใส่งอบ และใส่เสื้อดำจุบคาม ในกระบุงที่หาบมาจะมีเงิน ทอง เสื้อ และของกินทุกอย่าง
พอได้เวลาหัวหน้าจะถือไม้เท้าและใส่กุบเกิ้งพายถงเดินออกหน้า พอมาถึงบ้านแล้วจะยืนมองดูนิดหนึ่ง แล้วพาลูกหาบหญิงทั้งสองเดินเวียนขวา (ให้บ้านอยู่ด้านขวามือ) 3 รอบ มาหยุดยืนอยู่ที่บันได ยังไม่ขึ้น พวกที่เป็นเจ้าของบ้านซึ่งคอยจ้องอยู่แล้ว ก็ทำท่าขึงขังร้องถามออกไปว่า

เจ้าของบ้าน
เฮ้ย แม่นไผ หาบกระดอนคอนกระต่า ขนข้าวของสิไปไส?
พ่อพราหมณ์
โอย พวกข้าน้อย มาแต่เมืองหมั่นคำทองพุ้นดอก ได้ยินข่าวว่า ลูกหลานปลูกเฮือนใหม่ใส่หญ้าเต็ม ว่าสิมาค้ำมาคูณให้ ความเจ็บบ่ให้ได้ ความไข้บ่ให้มี ให้อยู่ดีมีแฮง บ่ให้ทุกข์ บ่ให้ยาก บ่ให้อึดให้อยาก บ่ให้ขาด บ่ให้เขิน จักอันจักแนว
เจ้าของบ้าน
เออ คันสิมาค้ำมาคูณ ให้ลูกหลานคือว่านั่นได้หยังมาแหน่?
พ่อพราหมณ์
ได้มาพร้อมเหมิดสู่อย่างสู่แนวนั่นหล่ะ
เจ้าของบ้าน
กุบส่องฟ้า ผ้าส่องดาว ได้มาบ่?
พ่อพราหมณ์
ได้มา
เจ้าของบ้าน
ข้อยข้าหญิงชายได้มาบ่?
พ่อพราหมณ์
เออ ข้อยข้า หญิงชาย เครื่องใช้ไม้สอย เงินคำ ถ้วย บ่วง ข่วง จอง ข้าวน้ำ ถ้ำปลา (ไหปลาแดก) แก้วแหวนแสนสิ่ง แม่นได้มาเหมิด
เจ้าของบ้าน
ของอยู่ของกินได้มาบ่?
พ่อพราหมณ์
ได้มา
เจ้าของบ้าน
เหล้ายา ปลาปิ้ง ได้มาบ่?
พ่อพราหมณ์
ได้มา
เจ้าของบ้าน
ความบ่อึด บ่อยาก บ่ทุกข์ บ่ยาก บ่ไข้ บ่หนาว ได้มาบ่?
พ่อพราหมณ์
ได้มา
เจ้าของบ้าน
เออ คันเพิ่นมาค้ำมาคูณบ่ให้เจ็บ บ่ให้ไข้ บ่ให้อึด บ่ให้อยาก บ่ให้ทุกข์ บ่ให้ยากหยังจักแนวกะเชิญขึ้นมาพี้
จากนั้นพวกแขก หรือพ่อพราหมณ์ที่มาแต่เมืองมั่นคำทอง ก็จะเหยียบหินและล้างเท้า แล้วจึงก้าวขึ้นบ้าน เอาถงไปห้อยไว้ที่เสาแฮก ถงนี้จะเอาไว้ 7 วันจึงจะเอาออกได้ แต่ก่อนห้อยพ่อพราหมณ์จะหยิบเอาสิ่วกับฆ้อนออกมาจากถงย่าม แล้วเอาฆ้อนตีสิ่วเพื่อห้อยถง 7 ครั้ง และว่าคำค้ำคูณแต่ละครั้งดังนี้
"ตอกบาดหนึ่ง ให้ได้ฆ้องเก้ากำ ตอกบาดสอง ให้ได้คำเก้าหมื่น ตอกบาดสาม ให้ได้เล้าข้าวหมื่นมาเยีย ตอกบาดสี่ ให้ได้เมียสาวมานอนพ่างข้าง ตอกบาดห้า ให้ได้ช้างมาเทียมโฮง ตอกบาดหก ให้ได้ชายโถงมานอนเฝ้าเล้าข้าว ตอกบาดเจ็ด ให้ได้ผู้เฒ่ามานอนเฝ้าเฮือน โอมอุอะมุมะมูนมามหามูลมังสวาหุม" ตอกแล้วกะเอาถงห้อยไว้

sqการปูที่นอนต้อนรับ
ต่อจากนั้นทางฝ่ายเจ้าของบ้านก็จะบอกฝ่ายตนว่า "ไปเอาสาดเอาหมอนมาปูที่นอนต้อนรับพ่อใหญ่และพี่น้องที่แต่เมืองมั่นคำทอง แม้สู" แล้วก็เอาสาดเอาเสื่อมาปูใกล้เสาห้อยถง และหันหัวไปทางห้อยถง ปูเสร็จแล้วกะเชิญพ่อใหญ่เมืองมั่นคำทองพักนอน
พ่อใหญ่ฯ จะนอนเอาผ้าคลุมหัวตลอดเท้า เจ้าของบ้านก็นอนเอาผ้าคุมหัวจดเท้าเช่นเดียวกัน แล้วทุกคนต้องทำเป็นล้มตัวลงนอนหลับพักผ่อน นอนกรน คร๊อกๆ สักครู่ให้คนใดคนหนึ่งส่งเสียงขันเช่นไก่ 2 - 3 ครั้ง พ่อใหญ่และเจ้าของบ้าน รวมทั้งคนอื่นๆ ก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกัน
เจ้าของบ้านจะแก้ความฝันว่า ฝันคืนนี้ฝันดีมีลาภ ฝันว่า พ่อใหญ่เอาไข่มาป้อนปันให้แต่เฮา เบิดกระบวน แล้วคนเมือเหมิดอ่อนฮ่อย ฝันว่านางนารถน้อยจูงแขนเข้าบ่อนนอน เมื่อแก้ความฝันแล้วพ่อใหญ่มาแต่เมืองมั่นคำทอง ก็จะให้พรว่า "เออ นอนหลับให้เจ้าได้เงินพัน นอนฝันให้เจ้าได้เงินหมื่น นอนตื่นให้เจ้าได้เงินแสน มือแปนให้เจ้าได้แก้วมณีโชติ โทษฮ้ายอย่ามาพาน มารฮ้ายอย่ามาเบียน โอมสหมฯ"
sqต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณบ้านเป็นมงคล
1.        ต้นไผ่ ต้นกุ่ม ปลูกทางทิศตะวันออก ท่านว่าป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้ดีนัก
2.        ต้นยอ ต้นสารภี ปลูกทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ท่านว่าป้องกันเสนียดจัญไร ดีนัก
3.        ต้นมะม่วง มะพลับ ปลูกทางทิศใต้ ท่านว่าป้องกันคนมาต้มตุ๋นได้ดีนัก
4.        ต้นขนุน (หมากมี่) ต้นคูณ ปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ท่านว่าป้องกันการใส่ร้ายป้ายสีดีนัก
5.        ต้นมะยม ต้นมะขาม ปลูกทางทิศตะวันตก ท่านว่าป้องกันการมีคดีความ การลอง การใส่ทางไสยศาสตร์ดีนัก
6.        ต้นมะกรูด มะนาว ส้มเขียวหวาน ปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ท่านว่าป้องกันคนมาปองร้ายได้ดีนัก
7.        ต้นหมากทัน (พุทรา) หมากสีดา (ฝรั่ง) ปลูกทางทิศเหนือ ท่านว่าป้องกันคาถาอาคมที่คนจะนำมาทำร้ายได้ทุกชนิดดีนัก
8.        ท่านให้ขุดสระไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปลูกต้นไม้ที่เป็นหนาม เช่น หมากมี่ ท่านว่าจะป้องกันโรคระบาดดีนักแล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

เพจ Jiraporn Tongkampra

เพจ Jiraporn Tongkampra
แบ่งปันสื่อ ไอเดียสอนลูก ใบงาน ไฟล์แบบฝึกหัด เพื่อการเรียนรู้ของลูกน้อย ของเล่นเสริมพัฒนาการ

บ้านนารายณ์ซับสกรีน

บ้านนารายณ์ซับสกรีน
รับออกแบบยันต์ต่างๆ ปั้มลงผ้ายันต์และเสื้อยันต์ รวมทั้งเสื้อใส่เล่น ในราคาถูก

ช่องยูทูปครูน้อย

ช่องยูทูปครูน้อย
ติดตามคลิบวีดีโอที่แบ่งปันวิทยาทานและธรรมทานได้อีกช่องทาง